เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2577 ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษ "ทุนมนุษย์" ยุค 5.0 สร้างไทยยั่งยืน ขจัดความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องในโอกาสครบรอบ 69 ปี (TJA 69th Anniversary Talk) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
โดย ดร.ประสาร ระบุตอนหนึ่งว่า การลงทุนเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศในระยะยาว ซึ่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 กำลังจะครบกำหนดในอีกไม่กี่ปีนี้ หากไม่เร่งการลงทุนเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ จะมีความเสี่ยงว่าการดำเนินงานภายใต้แผนฯ 13 จะไม่บรรลุเป้าหมายนี้ได้
สำหรับการลงทุนเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ จำเป็นต้องคำนึงถึงความท้าทายอย่างน้อย6 ด้าน คือ 1.ความท้าทายด้านโรคระบาดขนาดใหญ่ เป็นความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นเร็ว และจะส่งผลต่อกำลังแรงงาน และรูปแบบงานอย่างยิ่ง
2.ความท้าทายด้านประชากรสูงอายุ ซึ่งจะมีความรุนแรงมากขึ้น โดยประเมินว่า สัดส่วนคนวัยแรงงานจะลดลงจาก 71% ในปี 2563 เหลือ 56% ในปี 2603 และอัตราส่วนคนวัยทำงานต่อผู้สูงอายุจะลดลงจาก 2 ต่อ 1 เหลือ 1 ต่อ 1 ในปี 2603 ด้วย
การลงทุนในทุนมนุษย์จะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญสำหรับการบรรลุเป้าหมายเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อคน และจะช่วยให้ไทยบรรลุ 2 เป้าหมายคือ หลุดพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง และยุติวงจรความยากจนได้
3.ความท้าทายด้านความยากจนในชนบท พบว่า คนจนในประเทศไทยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในชนบทถึง 79% และเมื่อเทียบคนจนเมือง มีมากถึง 2.3 ล้านคน 4.ความท้าทายด้านความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ แม้จะลดความยากจนแต่ประเทศไทยยังมีอัตราความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเมืองและชนบทในอัตราที่สูง
ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของไทย
ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของไทย
5.ความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและด้านสิ่งแวดล้อมและ6.ความท้าทายด้านภัยธรรมชาติ โดยไทยมีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติหลายประการที่จะกระทบต่อตลาดแรงงานของไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ
ทั้งนี้ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับเป็นแนว ทางการลงทุนในทุนมนุษย์ ดังนี้ ลงทุนตั้งแต่ระดับปฐมวัย โดยเริ่มต้นตั้งแต่ในเด็กเยาวชนตั้งแต่ระดับปฐมวัย มุ่งเน้นลงทุนที่ตัวเด็กและครัวเรือนยากจน ซึ่งจะเป็นการลงทุนที่ถูกจุดที่สุดและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการลงทุนกับคนในวัยอื่นด้วย
ประธาน กสศ.กล่าวอีกว่า การลงทุนให้ถูกกลุ่มเป้าหมายสำคัญของประเทศ ด้วยวิธีการที่ชาญฉลาด โดยประเทศไทยควรลงทุนสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต และระบบการศึกษาทางเลือกที่มีความยืดหยุ่นตอบโจทย์ชีวิต สนับสนุนให้ทุกคนทุกกลุ่มมีโอกาสเข้ารับการอบรมเพื่อยกระดับและพัฒนาทักษะใหม่ และต้องลงทุนอย่างเสมอภาคให้ความสำคัญต่อสิทธิทางการศึกษาของเด็ก ทั้งในและนอกระบบการศึกษา
ในขณะที่การลงทุนด้วยนวัตกรรมทางการเงินการคลังเพื่อการพัฒนามนุษย์ใช้แรงจูงใจ เช่น การใช้มาตรการลดหย่อนภาษี 2 เท่า การใช้มาตรการกึ่งการคลัง เพื่อสนับสนุนงบประมาณในการลงทุนในทุนมนุษย์อย่างเสมอภาค และการเหนี่ยวนำทรัพยากรจากตลาดเงินและตลาดทุนมาร่วมลงทุนมาตรการลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษา เป็นต้น
อ่านข่าวอื่นๆ:
เปิดอก ผู้ว่า ธปท. "เศรษฐพุฒิ" เศรษฐกิจมุมต่าง ระยะห่างที่เหมาะสม
"สินเชื่อทะเบียนรถ" พุ่ง ส่งผล"หนี้ครัวเรือน" อ่วม 16.2 ล้านล้าน
กกร.ชี้ ศก.โลกโต ไทยยังอ่อนแอ-ฟื้นช้า"หนี้ครัวเรือน"กดกำลังซื้อ