เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2567 จากสภาพอากาศ ที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า กทม. จะมีอุณหภูมิสูง 38 องศาเซลเซียส โดยที่เห็นในภาพเป็นบรรยากาศแยกราชประสงค์ ที่มีรถจักรยานยนต์จอดติดไฟแดงเรียงแถวกันหลบตามร่มเงา เพื่อหลบแดด เงาที่เห็นเป็นเส้นทางรถไฟฟ้า ที่มาจากสถานีสีลม เพื่อเตรียมเลี้ยวไปทางสถานีสยาม ส่วนใหญ่ที่จอดรถหลบแดด เป็น พนักงานงานส่งของไรเดอร์ และแมสเซนเจอร์ ซึ่งแต่ละคนก็ใส่แจ็คเก็ต และปลอกแขนกันแดดกันอย่างรัดกุม
แต่ก็มีการเตือนด้วยว่า การแต่งชุดที่รัดกุมนานๆ ต้องคอยถอดเพื่อให้เกิดการระบายความร้อนด้วย เพราะอาจทำให้เกิดอาการฮีทสโตรกได้หากวันไหนที่อุณหภูมิสูง 40 องศาเซลเซียส ขึ้นไป ความร้อนดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อร่างกาย อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี อาจทำให้ชัก ช็อก หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอกเหนือจากที่ต้องระบายความร้อนจากเครื่องแต่งกาย ก็ต้องหมั่นดื่มน้ำบ่อยๆ และ งดดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงนี้ด้วย
ขณะที่ มีการพูดถึงมุมมองสภาพอากาศร้อน ใน กทม. โดย วินทร์ เลียววาริณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ และเป็นนักเขียนที่ได้รับ รางวัลซีไรต์ ที่ได้เปรียบเปรยสภาพอากาศร้อนในเมืองไทยคือสวรรค์ดีๆ นี่เอง
โดยได้ขยายมุมมองถึงเมื่อครั้งเรียนและทำงานที่นิวยอร์ก ได้เช่าตึกร่วมกับเพื่อน เมื่อหน้าหนาว ต้องเปิดฮีตเตอร์ทำความร้อน เพราะเปรียบเหมือนอาศัยอยู่ในช่องฟรีซตู้เย็น หรือ เหมือนปีนเขาเอเวอร์เรส อากาศหนาวจนเข้ากระดูกและทำให้ล้มป่วย ทำให้ระหว่างนั้น ได้นึกถึงหน้าร้อนในเดือนเมษายน ตอนอากาศร้อนจัด และเมื่อเวลามาเจออากาศร้อนในเมืองไทย ก็จะนึกถึงวันที่สวมชุดกันหนาวบนเตียงที่นิวยอร์ค จึมองว่า ความร้อนในเมืองไทยก็คือสวรรค์ดีๆ นี่เอง
แต่ข้อความที่โพสต์ ก็มีการแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง ต่อมุมมองงานเขียนด้วยความเห็นที่แตกต่างออกไป ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยที่เห็นด้วย มองว่า อากาศหนาวจัดใช้ชีวิตอยู่ลำบาก แม้จะเปิดฮีตเตอร์ แต่หากอากาศร้อน เปิดพัดลม และดื่มน้ำได้ ส่วนที่ไม่เห็นด้วย มองว่า อากาศร้อนมากเกินไป ก็อาจเสียชีวิตจากอาการฮีทสโตรกได้
อากาศร้อนจัด ไฟช็อตไหม้โรงเบียร์บึงกาฬ
อากาศที่ร้อนถึง 46 องศาเซลเซียส ยังทำให้เกิดเหตุไฟชอร์ตเสียงดังใต้เวทีโรงเบียร์ใน จ.บึงกาฬ คาดเสียหายกว่า 10 ล้าน โรงเบียร์บางกอกอินดี้ บ้านศรีพนาเหนือ หมู่ 16 ริมถนนหลวงสาย 2026 หนองหิ้ง-บึงโขงหลง ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ มีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกจากตัวอาคารขึ้นท้องฟ้าสูงหลาย 10 เมตร หน่ยงานท้องถิ่น และกู้ภัยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
นายสิทธิศร อายุ 34 ปี ชาว ต.โป่งไฮ อ.เซกา คนทำงานในร้านมานานเกือบ 6 ปี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงไฟช็อตดังอยู่บริเวณด้านล่างของเวทีประมาณ 5 นาที เห็นไฟกำลังลุกไหม้สายไฟ จึงวิ่งไปหาร้านค้าที่อยู่ข้างร้านให้ช่วยโทรหาดับเพลิง เมื่อกลับไปในร้านจะเอาถังดับเพลิงเข้าไปฉีด แต่ไม่ทันแล้ว ไฟลุกไหม้ในร้านอย่างรุนแรง จึงรีบกลับออกมา ประเมินความเสียหายเบื้องต้น ประมาณ 10 ล้านบาท พนักงานลูกจ้างกว่า 34 คน ต้องหยุดงานทันที
พ.ต.อ.พิชิต คงพิทักษ์ ผู้กำกับการ สภ.เซกา กล่าวว่า เบื้องต้นคนงานที่ดูแลร้านบอกว่าไฟฟ้าช็อตด้านล่างเวทีจนทำให้เกิดไฟไหม้ ซึ่งเหตุการณ์เกิดช่วงกลางวัน ไม่มีลูกค้า ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ส่วนผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศในพื้นที่ จ.บึงกาฬ ร้อนอบอ้าว โดยอุณหภูมิในร่มเวลา 13.35 น.วัดได้ 40 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิกลางแจ้ง ในเวลา 14.10 น. วัดได้ 46 องศาเซลเซียส
อ่านข่าวอื่น :
"ข้าวเหนียวมะม่วง" ติดอันดับ 2 เมนูพุดดิ้งข้าวดีที่สุดในโลก