ไทยติด Top 10 ส่งออกสินค้ากลุ่มคลายร้อนโลก "เบอร์ 1อาเซียน"

เศรษฐกิจ
15 พ.ค. 67
12:19
509
Logo Thai PBS
ไทยติด Top 10 ส่งออกสินค้ากลุ่มคลายร้อนโลก "เบอร์ 1อาเซียน"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมเจรจาฯ เผย ฤดูร้อนปีนี้ ไทยติดTop 10 ส่งออกสินค้ากลุ่มคลายร้อนโลก เบอร์ 1 ในอาเซียน ส่งออกไอศกรีมอันดับ 4 ของโลก และแปรรูป ครีมทาผิว แว่นกันแดด พัดลม เครื่องปรับอากาศ เติบโตสูง

วันนี้ (15 พ.ค.2567) นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพอากาศทั่วโลกมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคแสวงหาสินค้าเพื่อคลายความร้อน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าอุปกรณ์ทำความเย็น เช่น เครื่องปรับอากาศ และพัดลม กลุ่มสินค้าป้องกันความร้อนจากแสงแดด

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

จากสถิติการค้าระหว่างประเทศ พบว่า ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้ากลุ่มคลายความร้อนอันดับ 1 ในอาเซียน และติดอันดับ Top 10 ประเทศผู้ส่งออกสูงของโลกในสินค้าเกือบทุกรายการไม่ว่าจะเป็น ผู้ส่งออกเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและเม็กซิโก ผู้ส่งออกไอศกรีมอันดับ 4 ของโลก รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร และผู้ส่งออกผลไม้กระป๋องและแปรรูปอันดับ 6 ของโลก รองจากสหภาพยุโรป จีน บราซิล สหรัฐอเมริกา และตุรกี

นางสาวโชติมา กล่าวอีกว่า กลุ่มสินค้าดังกล่าวล้วนได้รับประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยมีกับ 18 ประเทศคู่ค้า ไม่ว่าจะเป็น พัดลม ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าใน 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย เปรู และชิลีไอศกรีม ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าใน 17 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี เปรู และฮ่องกง

แว่นตากันแดดและครีมกันแดด ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าใน 17 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี และฮ่องกง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าใน 16 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง และผลไม้กระป๋องและแปรรูป ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าใน 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง

ทั้งนี้สถิติการส่งออกกลุ่มสินค้าดังกล่าวของไทยไปตลาดคู่ค้า FTA พบว่า มีอัตราการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 เดือนแรก (ม.ค.-มี.ค. 2567) มีมูลค่า 1,269 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยสินค้าที่มีการส่งออกเติบโตสูง เช่น ผลไม้กระป๋องและแปรรูป มูลค่า 199 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 32% ครีมทาผิวที่รวมถึงครีมกันแดด มูลค่า 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 44% แว่นตากันแดด มูลค่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 42%

พัดลม มูลค่า 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 3% และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ มูลค่า 809 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 6% โดยมีตลาดส่งออกหลัก คือ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย

ถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังตลาดคู่ค้า FTA จากความต้องการของผู้บริโภคมีแนวโน้มโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งควรให้ความสำคัญกับคุณภาพมาตรฐานสินค้าและการผลิตให้เป็นไปตามหลักสากล ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และใช้ประโยชน์จาก FTA

 

 อ่านข่าว:

ราคาทองคำวันนี้ ยังไม่ขยับ “รูปพรรณ” ขายออกบาทละ 41,300

ราคาทองคำ วันนี้ ปรับบวก 100 บาท "รูปพรรณ" ขาย 41,000 บาท

ราคาทอง ก่อนปิดตลาด ผันผวน 9 ครั้ง "ร่วงแรง" 400 บาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง