ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวหลังรัฐบาลใช้มาตรการพยุงตลาด
ภาวะฟองสบู่ช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดหุ้นจีนปรับลดลงกว่าร้อยละ 30 หลายฝ่ายมองว่ามีกระบวนการแทรกแซงตลาดหุ้นของจีน แต่วันนี้ (9 ก.ค.2558) ดัชนีปรับตัวสูงขึ้นหลังปิดตลาด เป็นผลมาจากการใช้นโยบายพยุงตลาดหุ้นของทางการจีน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของจีนถีบตัวสูงขึ้นร้อยละ 5.76 ปิดที่ 3,709.33 จุด ในวันนี้ เช่นเดียวกับดัชนีเสินเจิ้น คอมโพเน้นท์ ที่ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 4.25 มาปิดที่ 11,510.34 จุด ดัชนีไชเน็กซ์พุ่งสูงขึ้นร้อยละ 3.03 ปิดที่ 2,435.76 จุด หลังจากตลาดหุ้นจีนร่วงหนักจากการเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
การปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้นจีนเป็นผลสืบเนื่องมาจากการแทรกแซงของทางการจีนที่กำหนดนโยบายกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพื่อระงับการผันผวนของตลาดหุ้นจีน โดยทางการจีนสั่งระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทจีนประมาณ 1,400 บริษัท หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นการชั่วคราว และให้บริษัทโบรกเกอร์ 21 บริษัท ช่วยกันซื้อหุ้นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อดันให้ดัชนีของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ทะลุ 4,500 จุด ซึ่งเป็นระดับเมื่อเดือน มิ.ย.ก่อนที่หุ้นจะตกลง
นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้ประกาศห้ามไม่ให้นักลงทุนที่ถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 5 ทำการขายหุ้นเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดหลักทรัพย์และจะมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน อีกทั้งเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนการเทขายหุ้นระยะสั้นที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนเกิดการผันผวนมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าการเข้ามาแทรกแซงของทางการจีนนั้นไม่เหมาะสม เนื่องจากมาตรการพยุงตลาดของจีนอาจทำให้มูลค่าหุ้นสูงเกินจริง จนทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นจีนในระยะยาว