ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"เศรษฐกิจโลก" โตต่อ จับตาการเมืองสหรัฐ KKP ชี้หุ้นกลุ่ม AI ขยายตัวสูง

เศรษฐกิจ
17 ก.ค. 67
04:46
1,615
Logo Thai PBS
"เศรษฐกิจโลก" โตต่อ จับตาการเมืองสหรัฐ KKP ชี้หุ้นกลุ่ม AI ขยายตัวสูง
อ่านให้ฟัง
07:27อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เศรษฐกิจโลกโตต่อ จับตาการเมืองสหรัฐฯ ยังผันผวน ทั้งนโยบายประเทศเศรษฐกิจหลัก-ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ KKP แนะลงทุนหุ้นคุณภาพสูงลดความเสี่ยง ชี้หุ้นกลุ่ม AI ยังมีแนวโน้มเติบโต จับตาค้าปลีก โรงแรม อาหาร และสื่อสารมาแรง ปัจจัยหนุนจากท่องเที่ยว

วันนี้ ( 17ก.ค.2567) นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มโตต่อได้แม้ไม่ร้อนแรงเท่าปีที่แล้ว และการเติบโตยังขยายวงกว้างมากขึ้น โดยสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังน่าจะทยอยลดลงได้อีก ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจเรื่องอัตราเงินเฟ้อให้กับเฟด

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร

โดย KKP ยังคงคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยได้ 1-2 ครั้งในครึ่งหลังปี 2567 นี้ ขณะที่ยุโรปสามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นแม้จะไม่สดใสเท่าสหรัฐฯ และเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงได้เช่นกัน นอกจากนี้ ในฝั่งประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ไม่รวมประเทศจีน (Emerging Markets ex China) ก็มีแนวโน้มที่เติบโตได้ดี ถึงมีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อที่อาจลงช้ากว่าคาด แต่น่าจะลดลงได้

ประเด็นที่ต้องจับตาใกล้ชิดในช่วงครึ่งปีหลัง คือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำมาซึ่งความไม่แน่นอนทั้งในแง่ของนโยบายของประเทศเศรษฐกิจหลัก และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในมิติของนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ที่จีนจะได้รับผล กระทบโดยตรง

โดยเศรษฐกิจจีนยังได้รับผลกระทบจากปัญหาภายในที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าภาคอสังหาฯ ที่ซบเซา ความเชื่อมั่นในการบริโภคที่ยังไม่ฟื้น และการขาดมาตรการกระตุ้น เมื่อประกอบกับความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้าหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แนวโน้มตลาดหุ้นจีนจึงยังไม่น่าสนใจ

สงครามารค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

สงครามารค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

สงครามารค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

นายทวีศักดิ์ เผ่าพัลลภ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บล.เกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า มุมมองว่าการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกยังไปต่อได้ แต่ด้วยความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เพิ่มขึ้นและคาดเดาได้ยาก บล.เกียรตินาคินภัทร จึงแนะนำว่านักลงทุนควรจัดสรรการลงทุนอย่างรอบคอบ เน้นหุ้นคุณภาพสูง และการกระจายการลงทุนในพอร์ต โดยมีการลงทุนทั้งแบบเชิงรุก (Grow) และแบบจำกัดความเสี่ยง (Protect) ควบคู่กัน

สำหรับการลงทุนเชิงรุก (Grow) หุ้นที่น่าสนใจคือ หุ้นกลุ่มที่มีการเปลี่ยนแปลงตามวัฏจักรเศรษฐกิจ(Cyclical growth) ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ไม่รวมประเทศจีน (Emerging Markets ex China) เนื่องจากวงจรเศรษฐกิจเอื้ออำนวยและโมเมนตัมกำไรแข็งแกร่ง และกลุ่มธุรกิจการเงิน (Financials) เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมและคุณภาพสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มดีขึ้น

นายทวีศักดิ์ เผ่าพัลลภ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บล.เกียรตินาคินภัทร

นายทวีศักดิ์ เผ่าพัลลภ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บล.เกียรตินาคินภัทร

นายทวีศักดิ์ เผ่าพัลลภ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บล.เกียรตินาคินภัทร

ส่วนกลุ่มที่เหมาะกับการลงทุนในระยะยาวคือ หุ้นอินเดีย และกลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวโยงกับห่วงโซ่อุปทานของ AI (AI Value Chain) นอกเหนือจากเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากการลงทุนด้าน AI ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อ

ส่วนการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Protect) แนะนำลงทุนในตราสารหนี้โลกคุณภาพดีเพราะให้ผลตอบแทน (yield) สูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ แต่จำกัดความเสี่ยงจากความผันผวนของ yield เน้นการลงทุนที่อายุ 3-5 ปี

ความเสี่ยงยังไม่ถูกสะท้อนอยู่ในราคาหุ้นในตลาดทั้งหมด จึงควรลงทุนในอนุพันธ์ที่ป้องกันเงินต้น แต่ยังเปิดช่องให้รับ Upside

ขณะที่การลงทุนในหุ้นกลุ่ม AI ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อได้อีก เนื่องจากการลงทุนพัฒนายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังมีศักยภาพรอนำไปใช้ เห็นการขยายการใช้งานไปยังกลางน้ำ-ปลายน้ำของห่วงโซ่อุปทานของ AI (AI Value Chain) ด้านการประเมินมูลค่าหุ้นไม่ถือว่าราคาถูกแต่ยังไม่แพงจนถึงระดับฟองสบู่

สำหรับการลงทุนต่างประเทศ ความผันผวนของ Forex (Foreign Exchange) สูงในระยะสั้นแต่ระยะยาวไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อผลตอบแทน ประกอบกับต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (hedging cost) ที่ค่อนข้างสูง

ดังนั้นการลงทุนต่างประเทศโดยเป็นแบบเปิดรับความเสี่ยงค่าเงิน (unhedged) จึงน่าจะทำให้ได้ผลตอบแทนในระดับสูงในต่างประเทศอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย คาดว่า hedging cost USD/THB จะมีแนวโน้มแพงไปอย่างน้อยอีก 2-3 ปี เนื่องจากปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยที่ด้อยลงและเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ค่อนข้างแข็งแกร่งจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเทียบกับสหรัฐฯน่าจะอยู่ในช่วง 2-3%

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) วิเคราะห์อีกว่า  การลงทุนครึ่งปีหลังตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน จากปัจจัยด้านการเมืองและนโยบายที่ไม่แน่นอน นักลงทุนควรมองหาโอกาสและเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีก โรงแรม อาหาร และสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

ตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 3 จะเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านจากจุดต่ำสุดของตลาดในไตรมาสก่อน คาดว่าผลตอบแทนจะเริ่มค่อนข้างคงที่หรือไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก จากความไม่แน่นอนทางการเมืองและนโยบายต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่จะช่วยลดความผันผวนของตลาดได้บางส่วน ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มค้าปลีก โรงแรม อาหาร และสื่อสารโทรคมนาคม มีแนวโน้มเติบโตดีจากปัจจัยหนุนดังกล่าว

ในขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มที่ควรลดสัดส่วน (Underweight) คือ หุ้นกลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์ สื่อ เคมี และอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังเผชิญสภาวะสินเชื่อชะลอตัวและการลดลงของสัดส่วนหนี้สิน (deleveraging cycle) ปัญหาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรม และปัญหาการผลิตสินค้าเกินกำลังการผลิตในจีน

อ่านข่าว:

 “ราคาทอง” เช้านี้ บวก 500 บาท “รูปพรรณ” ขายออก 42,650 บาท

"คลัง" เตือนเอาผิดหากแลก "เงินสด" 10,000 แทนใช้เงินดิจิทัล

GULF ประกาศควบรวมกิจการ INTUCH ตั้งบริษัทใหม่ NewCo

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Failed to load player resources

Please refresh the page to try again.

ERROR_BYTEARK_PLAYER_REACT_100001

00:00

00:00

ให้คะแนนการอ่านข่าวนี้