วันนี้ (17 ก.ค.2567) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน นำพรรคร่วมฝ่ายค้านแถลงแนวทางการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกันที่จะไม่รับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้
นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ตัวแทนพรรคก้าวไกล ระบุว่า ในนามของพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกันไม่เห็นด้วยกับหลักการของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 โดยชี้ถึงเหตุผล 3 ข้อคือ พรรคร่วมฝ่ายค้าน มิใช่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ตัวแทนพรรคก้าวไกล
ทั้งนี้ มองว่า เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันมีปัญหาและสมควรที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จำเป็นต้องถูกจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสม เพราะจากการประเมินของหลายหน่วยงานพบว่า การใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่คุ้มเสีย
ประเด็นที่ 2 คือ ความสุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย รวมถึงสร้างบรรทัดฐานที่ผิด ๆ ในการจัดทำงบประมาณ โดยเฉพาะการใช้เงินในอนาคต หรือการใช้งบกลางในปีงบประมาณหน้าหรือปลายปีนี้
ประเด็นสุดท้ายที่สำคัญที่สุด ฝ่ายค้านเห็นว่า แม้จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่เม็ดเงินที่นำมาใช้ ประมาณ 450,000 ล้านบาทนั้น จำเป็นต้องบริหารงบประมาณอย่างเหมาะสม ซึ่งโจทย์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเป็นมากกว่าการกระตุ้นการบริโภค แต่เป็นโจทย์ของภาคการผลิตซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องไปสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยในระยะยาว ดังนั้นด้วย 3 เหตุผลนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงเห็นตรงกันว่าไม่ควรรับหลักการ
นายร่มธรรม ธุวธรรม สส.พรรคประชาธิปัตย์
นายร่มธรรม ธุวธรรม สส.พรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่า เหตุผลที่ไม่สามารถรับหลักการร่างนี้ เพราะมีข้อกังวลเรื่องของการกู้เงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งผิดกับหลักการที่นายกฯได้ให้สัญญาไว้กับประชาชน
เพราะสุดท้ายก็เป็นการกู้มาแจกทำให้หนี้สาธารณะพุ่งไปไกล และการของบประมาณเพื่อโครงการนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่ชัดเจน โดยเฉพาะแหล่งที่มาของเงิน รวมไปถึงหลักเกณฑ์การแจกและความคุ้มค่าของโครงการ นอกจากนี้ยังสุ่มเสียงที่จะผิดกฎหมาย
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ในฐานะตัวแทนพรรคไทยสร้างไทย
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ในฐานะตัวแทนพรรคไทยสร้างไทย ย้ำว่าเห็นด้วยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมฉบับนี้ ด้วยเหตุผลข้อกังวลต่อโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ตเช่นเดียวกัน เพราะขัดทั้ง พ.ร.บวินัยการเงินการคลัง และ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ
รวมไปถึงขัดต่อหลักการจัดทำงบประมาณ เพราะอาจจะสร้างปัญหากระทบไปถึง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ดังนั้น เพื่อไม่ให้ เกิดปัญหาควรจะถอนร่างฯ ฉบับนี้ออกไปก่อน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน ถ้ายังยืนยันอยู่ฝ่ายค้านก็จะไม่รับหลักการอย่างแน่นอน
อ่านข่าว : สภาฯเตรียมถกร่างงบฯปี 67 เพิ่มเติม 1.22 แสนล้าน 17 ก.ค.นี้
เคาะ 1 ส.ค.ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
"เศรษฐา" ยืนยันจำเป็นกระตุ้น ศก. ปมตั้งงบรายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 จำนวน 1.22 แสนล้าน