วันนี้ (20 ก.ย.2567) ข่าวใหญ่ในมาเลเซียขณะนี้คือคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหลายร้อยคนภายในสถานดูแลเด็ก สร้างความตื่นตกใจเป็นวงกว้างและนำมาสู่การตั้งคำถามถึงการดูแลสวัสดิภาพเด็กที่อาศัยอยู่ภายในสถานรับดูแล
คดีล่วงละเมิดเด็กครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ครั้งเลวร้ายที่สุดในมาเลเซียในรอบหลายสิบปี เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากตำรวจเปิดเผยว่า ได้เปิดปฏิบัติการ Op Global บุกตรวจค้นสถานดูแลเด็ก จำนวน 18 แห่งในรัฐ "เซอลางอร์" และอีก 2 แห่งในรัฐ "เนอกรี เซิมบีลาน" ที่อยู่ติดกัน โดยสามารถช่วยเหลือเด็กอายุตั้งแต่ 1 ขวบไปจนถึง 17 ปี เอาไว้ได้ทั้งหมด 402 คน แบ่งเป็นชายและหญิงอย่างละครึ่ง รวมทั้งจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่มีอายุตั้งแต่ 17-64 ปี เอาไว้ได้ 171 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ดูแลและครูสอนศาสนาอีกหลายคนรวมอยู่ด้วย
การสอบสวนของตำรวจชี้ว่า เด็กๆ ถูกทำร้ายร่างกายและส่วนหนึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ รวมทั้งมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สถานดูแลบังคับให้เด็กๆ กระทำพฤติกรรมล่วงละเมิดกันเองด้วย ขณะที่การขยายผลสอบของตำรวจนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก 19 คน ในจำนวนนี้มี CEO และผู้บริหารบริษัท Global Ikhwan Services and Business หรือ GISB ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของสถานดูแลเด็กรวมอยู่ด้วย หลังจากตำรวจบุกตรวจค้นอาคารที่พัก 4 แห่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และยังจับกุมตัวผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทนี้อีก 5 คน บริเวณพรมแดนที่ติดกับไทย
บริษัท GISB เป็นบริษัทที่มีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ซูเปอร์มาร์เก็ตไปจนถึงร้านอาหาร และดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ฝรั่งเศสและอังกฤษ มีมูลค่าทรัพย์สิน 325 ล้านริงกิต หรือมากกว่า 2,500 ล้านบาท แต่ตำรวจเชื่อว่าบริษัทนี้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม "อัล-อาร์คาม" ซึ่งถูกรัฐบาลสั่งแบนเมื่อปี 1994
ก่อนหน้านี้ CEO ของบริษัท GISB ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดในสถานดูแล แต่ยอมรับว่าเคยเกิดเหตุขึ้นประมาณ 1-2 ครั้งเท่านั้น และแม้ว่าการสืบสวนในคดีนี้จะยังไม่เสร็จสิ้น แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็จุดกระแสความกังวลขึ้นในสังคมมาเลเซียเกี่ยวกับการดูแลสวัสดิภาพของเด็กๆ ในสถานดูแล และระเบียบต่างๆ ของทางการมาเลเซียในการตรวจสอบองค์กรการกุศลในประเทศว่ามีเพียงพอแล้วหรือไม่
ประเด็นนี้ยังทำให้คนหันมามองถึงปัญหาการล่วงละเมิดเด็ก โดยข้อมูลจากกรมสวัสดิการสังคมมาเลเซีย ชี้ว่า มีเด็กถูกล่วงละเมิดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากไม่ถึง 6,000 คนในปี 2020 เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 8,000 คนเมื่อปี 2023 ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 60% เป็นเด็กผู้หญิง โดยตัวเลขของปี 2023 เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วเกือบ 2 เท่า
ส่วนตัวเลขในปี 2024 ช่วง 6 เดือนแรกมีเด็กถูกล่วงละเมิดในมาเลเซียรวมมากกว่า 3,800 คน ซึ่งการล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นมากที่สุด และกลุ่มที่ตกเป็นผู้เสียหายส่วนใหญ่คือเด็กผู้หญิง ตามมาด้วยการถูกละเลยและทำร้ายร่างกาย ซึ่งเด็กผู้ชายจะถูกกระทำมากกว่าเด็กผู้หญิง ขณะที่ส่วนที่เหลือมีทั้งการถูกพ่อแม่ทอดทิ้งและถูกล่วงละเมิดทางอารมณ์
ข้อมูลจากองค์กรที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือเด็ก ระบุว่า ในยุคหลังโควิด-19 มีเด็กถูกทอดทิ้งเพิ่มมากขึ้น โดยสถานดูแลบางแห่งต้องรับเด็กเพิ่มขึ้นถึง 30% สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่พ่อแม่หย่าร้าง หรืออาจไม่มีงานทำ ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกของตัวเองได้ ขณะที่ปัจจุบันมีการประเมินว่าอาจมีเด็กอาศัยอยู่ในสถานดูแลประมาณ 64,000 คนทั่วประเทศ
อ่านข่าว
ผู้นำเฮซบอลลาห์ประกาศล้างแค้น ชี้อิสราเอลข้ามเส้นทุกมิติ
คลื่นถล่มชายฝั่งทะเลตรัง บ้านเรือน-ร้านค้าเสียหาย เดือดร้อน 20 ครัวเรือน