วันนี้ (18 ต.ค. 2567) น.ส.สกุณา สาระนันท์ กรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวถึงการพิจารณากรณีพระเมธีวชิโรดม หรือ "ว.วชิรเมธี" เทศสอนธรรมะให้กับบริษัทดิไอคอนว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมาธิการฯ ยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าวและยังไม่ได้พิจารณาใด ๆ ทั้งสิ้น
ส่วนจะหยิบยกเรื่องนี้ ขึ้นมาพิจารณาภายหลังด้วยหรือไม่นั้น น.ส.สกุณา กล่าวว่า หลักการทำงานเรื่องใด ๆ ที่จะนำเข้าพิจารณาในกรรมาธิการ ต้องได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน จากบุคคลทั่วไปก่อน และเรื่องพระสงฆ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องทำตามขั้นตอน
ส่วนประเด็นสังคม ทั้งเรื่องการโพสต์เฟซบุ๊กของท่าน ว.วชิรเมธี การปรากฏภาพ ว่ารับเงินจากบริษัทดิไอคอน เรื่องการเทศนาในดิไอคอน ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวได้
ทุกเรื่องที่สังคมต้องการให้พิจารณาแก้ไข กมธ.ยินดี แต่จะต้องฟังหลายฝ่ายไม่อยากให้ตั้งประเด็น หรือสังคมกังวลในเรื่องนี้ เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างรอบคอบ
น.ส.สกุณา สาระนันท์ กรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎ
พร้อมยืนยันคณะกมธ.ยังเห็นตรงกันที่จะยังไม่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา ส่วนความคิดเห็นของกรรมาธิการสัดส่วนพรรคประชาชน เป็นความเห็นส่วนตัว จึงทำให้ต้องมาแถลงข่าวเพื่อความชัดเจนในวันนี้
ก่อนหน้านี้ มีการขุดคลิปที่ ว.วชิรเมธี การเทศน์วอนธรรมะที่แฝงชวนให้ลงทุน “ดิไอคอนกรุ๊ป” จนเกิดกระแสวิจารณ์วงกว้าง จากนั้นมีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก พระเมธีวชิโรดม – ว.วชิรเมธี (V vajiramedhi) ได้โพสต์จดหมาย 2 แผ่น ก่อนจะลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งในเวลาต่อมา
โดยระบุข้อความว่า ขอพระอาจารย์พูดบ้างนะ “หนุ่ม กรรชัย” แห่ง “โหนกระแส” ตั้งแต่เกิดกรณีดิไอคอน พอจ. ก็เป็นฝ่ายเงียบมาโดยตลอดโดยมีความเชื่อมั่นว่า “ความบริสุทธิ์ใจ-ความจริง” จะปกป้องตัวมันเอง
อ่านข่าว คุม 17 ผู้ต้องหาดิไอคอน" ขอฝากขังศาล เหลือบอสพอลยังสอบไม่เสร็จ
ทนายตั้ม เข้ายื่นหนังสือสอบนักการเมือง ส.
"ทนายตั้ม"แทคทีม ทนายเดชา แจ้งเอาผิด
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน กล่าวกรณีนี้ว่า เรื่องนี้นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา เป็นเจ้าภาพหลัก ทราบว่าจะไปแจ้งความดำเนินคดี พร้อมเชิญชวนผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากท่าน ว.ให้ไปให้ข้อมูลกับทนายเดชา หากผู้เสียหายแจ้งว่าเข้าข่ายชักจูง หรือเชิญชวน
เท่าที่ได้ดูคลิปก็ถือว่าหมิ่นเหม่ เพราะมีการชวน และท่านเองก็ได้ปัจจัยรอบละประมาณ 1 ล้านบาท ก็ถือว่าได้ผลประโยชน์ การเทศน์ว่าบริษัทดิไอคอนเป็นบริษัทที่ดี ก็ถือว่าสุ่มเสี่ยง
นอกจากนี้ ขอให้มหาเถรสมาคม และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้ามาตรวจสอบ เพราะเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับศาสนาควรเข้ามาจัดการในเรื่องนี้ ที่มีพระเข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจ การเมืองต่าง ๆ ซึ่งพระหลายรูปเป็นพระที่ดี และมีพระอีกหลายรูปที่อยากมาทำการเมืองหรืออยากทำธุรกิจ
แนะนำให้ทำอย่างแพรี่ ไพรวัลย์ ที่ศึกออกมา ก็มีงานทำเยอะแยะ เป็นตัวอย่างที่ดีกับพระทั้งหลาย
และเมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า ธ.อาจจะไม่ใช่ นายธเนตร วงษา นักธุรกิจพันล้าน แต่อาจจะเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี นายษิทรากกล่าวว่า ไม่มีข้อมูล เพราะเท่าที่ทราบคือนายธเนตร และมีการคุยกันในรายการช่องหนึ่งแล้ว แต่ข้อมูลคนอื่นอาจจะมี ธ. อื่น ก็เป็นไปได้ แต่ไม่มีข้อมูลตรงนี้
อ่านข่าว
“ทนายบอสพอล” ระบุอาจไม่ยื่นประกัน หลังศาลไม่อนุญาต 3 บอสดารา