วันที่ 21 ต.ค.2567 พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ร่วมประชุมกับ นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายพลจัตวา โซหล่าย ผู้บัญชาการภาคสามเหลี่ยม และ นาย อูมินโก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก
ติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และหารือความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา ที่ด่านศุลกากร สะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 2
เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ได้ขอบคุณฝ่ายเมียนมาที่อนุญาตให้เข้าไปติดตั้งเครื่องมือแจ้งเตือนระดับน้ำ หรือเครื่องโทรมาตรอัตโนมัติบริเวณต้นแม่น้ำสายและจุดตรวจสอบ จำนวน 4 จุด ได้แก่ บ้านโจตาดา บ้านดอยต่อคำ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และสะพานข้ามแม่น้ำรวก ซึ่งจะดำเนินการในวันที่ 28 ต.ค.- 2 พ.ย.นี้ ซึ่งจะแจ้งเตือนอุทกภัยล่วงหน้าได้ 8-10 ชั่วโมง พร้อมทั้งขอบคุณที่เมียนมาให้ความร่วมมือ ไม่ทิ้งโคลน วัสดุต่าง ๆ ลงในแม่น้ำ
พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา
พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา
นอกจากนี้ ยังหารือการแก้ปัญหาการเกิดอุทกภัย และดินโคลนถล่มในแม่น้ำสาย อย่างยั่งยืน โดยขอให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำ รวมทั้งการขุดลอกลำน้ำ โดยฝ่ายไทยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการร่วมไทย-เมียนมา เกี่ยวกับสิทธิการเดินเรือฯ ของแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก หรือ Sub JCR ที่มีรองผู้ว่าฯ เชียงราย เป็นประธาน ทำแผนดำเนินงานให้แล้วเสร็จในเดือนธ.ค.นี้
จึงขอให้ทางเมียนมา ทำแผนคู่ขนานไปด้วยกัน ซึ่งฝ่ายเมียนมาระบุว่า ยินดีให้ความร่วมมือในทุกกิจกรรม โดยได้สำรวจสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำ ในฝั่งเมียนมาเรียบร้อยแล้วพบ 33 แห่ง และพร้อมรื้อถอนทันที
โดยระหว่างการหารือ เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารได้สอบถามถึงการใช้งานระบบติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งฝ่ายไทยสนับสนุนการติดตั้งให้แก่เมียนมา ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายเมียนมาอยากให้ฝ่ายไทยสนับสนุนระบบแจ้งเตือนที่เชื่อมต่อกับเครื่องโทรมาตร รวมทั้งระบบแจ้งเตือนไฟป่าและหมอกควันที่ จ.เชียงตุง เพิ่มเติม
ในช่วงท้ายของการหารือ ฝ่ายเมียนมาได้ขอบคุณฝ่ายไทย ที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฟื้นฟูอุทกภัยใน จ.ท่าขี้เหล็ก จนสามารถฟื้นฟูพื้นที่ได้ประมาณร้อยละ 75 และขอให้ฝ่ายไทยอำนวยความสะดวกกรณีที่ภาคเอกชนเมียนมา ต้องการสั่งซื้อเครื่องจักรที่ใช้ในการจัดการดินโคลน เช่น รถแบคโฮขนาดเล็ก เครื่องดูดโคลน เพื่อเร่งมาฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ขณะเดียวกันได้ยืนยันจะให้ความร่วมมือ
ทั้งนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายจะนำผลการหารือในวันนี้ แจ้งกับส่วนที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศทราบ และจะร่วมกันนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมา เกี่ยวกับเขตแดนคงที่ช่วงแม่น้ำสายแม่น้ำรวก หรือ JCR ซึ่งจะจัดการประชุมในวันที่ 5-7 พ.ย. ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาและมีข้อสั่งการร่วมกันต่อไป
อ่านข่าว : “ถอดรหัส....แชร์ลูกโซ่” คำให้การของ “แม่ทีมระดับ wisdom dealer”