- เส้นทาง "ทนายตั้ม" บทบาททนายความบนความสนใจของสังคม
- ศาลไม่ให้ประกันตัว "เมียทนายตั้ม" หลังยื่นหลักทรัพย์ 5แสนบาท
วันนี้ (8 พ.ย.2567) ภายหลังจากตำรวจสอบสวนกลางคุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม และภรรยา มาที่กองบังคับการปราบปราม และทำบันทึกจับกุมรวมถึงสอบปากคำนานกว่า 11 ชั่วโมง
อ่านข่าว : จับ "ทนายตั้ม-ภรรยา" ข้อหาฉ้อโกง-ฟอกเงิน
ตำรวจคุมได้คุมตัวนายษิทรา และภรรยา ออกจากห้องสอบปากคำ ลงมาคุมขังไว้ที่ห้องควบคุมตัว บริเวณชั้น 1 ของอาคารประชารักษ์ กองบังคับการปราบปราม ซึ่งจะแยกคุมขังห้องชายและหญิง ทันทีที่นายษิทรา ลงมาถึงชั้น 1 ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน ที่พยายามตะโกนสอบถาม โดยนายษิทรามีท่าทางอิดโรยและสีหน้าเรียบเฉย เช่นเดียวกับภรรยา ก่อนที่จากนั้น 2 คน ก็ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวเข้าไปในห้องควบคุมผู้ต้องขังทันที
ด้านนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา เปิดเผยว่า ตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา ในคดีที่เกี่ยวข้องกับเงิน 71 ล้านบาท , ค่าออกแบบการก่อสร้างอาคาร 9 ล้านบาท และ คดีเป็นนายหน้ารับค่าส่วนต่างจากการซื้อขายรถยนต์ 13 ล้านบาท รวม 3 คดี
โดยคดีเงิน 71 ล้าน ไม่ขอลงรายละเอียดเพราะเคยให้ข่าวไปแล้ว ส่วนคดีแบบก่อสร้างอาคาร 9 ล้านบานนั้น ขอชี้แจงว่าตามขั้นตอนต้องทำหลายอย่าง ทั้งสร้างโรงแรม ตกแต่งภาย แบบไฟฟ้า แต่เมื่อรับเงินมาแล้ว ในขั้นแรกก็ได้ลงมือสร้างตึกก่อน แต่เมื่อทำแบบตึกเสร็จก็ได้ขอใบอนุญาตก่อสร้าง จากนั้นก็ยังไม่ให้เข้าพื้นที่ทำให้ที่เหลือยังไม่ได้ทำ แต่เมื่อไม่ได้คุยกันก็ไม่ได้ทำต่อ
ส่วนคดีรับค่านายหน้าซื้อขายรถ ขณะนั้น น.ส.จตุพร หรือ เจ๊อ้อย ต้องการใช้รถด่วน แต่ในประเทศไทยหาไม่ได้ จึงต้องสั่งนำเข้ามาและได้พูดคุยกับโชว์รูมว่าจะมีส่วนต่างค่าคอมมิชชันให้ 1.5 ล้านบาท ยืนยันว่าทุกอย่างมีเอกสารใบเสนอราคาและรายละเอียดรถครบถ้วน
อ่านข่าว : ตำรวจชี้ "ทนายตั้ม" พยายามหลบหนีไปชายแดน คุมตัวฝากขัง 8 พ.ย.
สายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความ
ทนายความของนายษิทรา เปิดเผยว่า ทั้ง 3 คดีที่ถูกกล่าวหานั้น นายษิทรา ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งหลังจากนี้ในฐานะทนายความของผู้ต้องหาจะขอกลับไปเตรียมหลักฐานและเอกสารประกอบคำให้การ เพื่อนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ภายหลัง เนื่องจากเตรียมตัวไม่ทัน และวันนี้ (8 พ.ย.) พนักงานสอบสวนเตรียมจะคุมตัวนายษิทราและภรรยาไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ซึ่งตัวเองอยู่ระหว่างการปรึกษากับครอบครัวของนายษิทรา ในการเตรียมหลักทรัพย์เพื่อยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล
ส่วนสภาพจิตในของนายษิทรา ขณะนี้ยังมีกำลังใจดี เพราะหลังจากทราบว่ากำลังจะถูกดำเนินคดี นายษิทราก็เตรียมตัวอยู่ที่บ้านมาตลอด 5 วัน เพราะคาดว่าตำรวจจะนำหมายจับมาจับกุมที่บ้าน กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา นายษิทราและภรรยา ได้ขับรถออกจากบ้านเพื่อไปทำบุญ ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา โดยสัมภาระที่ตำรวจพบภายในกระเป๋าเดินทางนั้น เป็นชุดขาวที่เตรียมไว้สำหรับใส่ปฏิบัติธรรม ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้คิดหลบหนี เพราะพร้อมที่จะต่อสู้ทางคดี
สำหรับนายษิทรา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาฉ้อโกง, ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ส่วนนางปทิตตา ภรรยาของนายษิทรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน
ขณะที่ล่าสุด เวลาประมาณ 07.30 น. ตำรวจคุมตัว "ทนายตั้ม" ออกจากห้องควบคุม ผู้ต้องขัง ที่บริเวณชั้นล่าง ของกองบังคับการปราบปราบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พาขึ้นลิฟท์ เพื่อขึ้นไปบนอาคาร เพื่อสอบปากคำต่อ และเตรียมส่งตัวฝากขังต่อศาลอาญา วันนี้
โดยช่วงหนึ่ง ระหว่างที่คุมตัวก่อนขึ้นบนอาคาร ทางทนายตั้ม หันมามองที่ประตูทางออกของกองปราบฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่สื่อมวลชนปักหลักอยู่
โดยทนายตั้ม ยังสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ เป็นชุดหลังจากโดนจับ และพามาควบคุมตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้
ขณะที่นางปทิตตา ภรรยา ภรรยาทนายตั้ม ยังคงถูกคุมตัว อยู่ชั้นล่าง มีรายงานว่า วันนี้ ทางภรรยา จะยื่นขอประกันตัว ส่วนทนายตั้ม จะไม่ยื่นขอประกันตัว
อ่านข่าว :
ผกก.สน.บางซื่อ เข้าให้ข้อมูลปมเจ๊อ้อยโอน 39 ล้านให้ทนายตั้ม
ตร.ค้นบ้าน "ทนายตั้ม" 2 จุด ยึดของกลาง 32 รายการ กระเป๋าแบรนด์เนมเพียบ