ไม่เพียงแค่ชนะเพราะเสียงของ สว.เท่านั้น แต่ผลโหวต 13 ต่อ 9 เสียง ในการประชุมร่วมกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เมื่อวันพุธ (20 พ.ย.2567) เสียงข้างมากฝ่าย สว. ยังชนะได้ เพราะ สส. โควต้ากรรมาธิการพรรคภูมิใจไทย ทั้งนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.และวิปรัฐบาล งดออกเสียง
ทำให้ข้อเสนอทางสายกลาง “ชั้นครึ่ง” ของนายนิกร จำนง กรรมาธิการร่วมจากพรรคชาติไทยพัฒนา ให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอยคนละก้าว ถูกเมินไปด้วย จนนายนิกรฟันธงว่า งานนี้มีลากยาว 180 วันแน่ ๆ และจะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญ จะไม่สามารถทำได้ทันในรัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งความหวังจะได้เห็น สสร.หรือสภาร่างรัฐธรรมนูญ ต้องเป็นหมันลงด้วย
นายนิกรเชื่อว่า แม้ สส.จะยืนยันร่างเดิม แต่โอกาสจะแก้รัฐธรรมนูญได้ก็มองไม่เห็น เพราะ สว.คงไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไข มาตรา 256 ที่ว่าด้วยวิธีการและกติกาการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องใช้เสียง สว.เห็นชอบไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ทั้งในชั้นรับหลักการและวาระที่ 3
สำหรับพรรคภูมิใจไทย ก่อนหน้านี้ ได้สะท้อนจุดยืนต่อเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ผ่านการแถลงของกลุ่มยังเติร์กในพรรค ที่กำลังกลายเป็นกลุ่มที่มีบทบาทที่สุดในพรรค นำโดยนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.และวิปรัฐบาล เมื่อปลายเดือนกันยายน 2567 เห็นด้วยการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 1 หมวด 2 มีการทำประชามติ และทำโดย สสร.
ก่อนหน้านั้น แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แบบรายมาตรา ที่พรรคเพื่อไทย ชูประเด็น แก้ไขลดทอนเรื่องจริยธรรมนักการเมือง จนไปต่อไม่ได้ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค รวมทั้งพรรคภูมิใจไทยไม่เอาด้วย เรื่องจะไปยกเลิกเรื่องจริยธรรมนักการเมือง
แต่สำหรับพรรคเพื่อไทย เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญถึงขณะนี้ ก็ยังถูกตั้งคำถามถึงความชัดเจนว่า จะเอาอย่างไร
จากเดิมนโยบายช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ปี 2566 ระบุจะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยคงรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทำโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และผ่านขั้นตอนการออกเสียงลงประชามติโดยประชาชน
แต่หลังจากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แม้จะยังคงข้อความให้ สสร. มาจากการเลือกตั้ง ในนโยบายอย่างเป็นทางการของพรรค แต่ใช้คำว่า “จัดตั้ง สสร.” ให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่ได้ระบุชัดเจนว่า มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนหรือไม่ จนเป็นเหตุให้เกิดคำถาม
แม้แต่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.และสมาชิกอาวุโสในพรรค ยังออกมาพูดผ่านสื่อในเชิงตั้งคำถามถึงพรรคว่า จุดยืนส่วนตัว สสร. ควรมาจากการเลือกตั้ง แต่ไม่รู้พรรคจะเอาอย่างไร เพราะมีการอ้างจากแกนนำในพรรคว่า ต้องหารือในพรรคร่วมว่าจะเอาอย่างไร
สุดท้าย จึงนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการศึกษา แนวทางแก้ไข มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีพาณิชย์ขณะนั้น เป็นประธาน
ในทางปฏิบัติ พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนที่เห็นต่าง จากพรรคเพื่อไทยอีกหลายเรื่อง ทั้งการแสดงออกผ่านกลุ่มยังเติร์กของพรรค กรณีเรื่องตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีบ่อนคาสิโนรวมอยู่ด้วย มีเหตุผลหลักถึง 4 ข้อ รวมทั้งไม่มั่นว่า จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างที่อ้างได้จริงหรือไม่ ทำให้โครงการนี้ ยังลูกผีลูกคนจะเดินหน้าต่ออย่างไร
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่แสดงออก ผ่านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นับตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จะเอานโยบายกัญชาเสรี และการใช้ในเชิงการแพทย์ที่เป็นนโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทย กลับไปเป็นยาเสพติด
กระทั่งต่อมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต้องพาลูกหลานไปพักผ่อนโชว์ลูกคอ และวงสวิงตีกอล์ฟ ที่รีสอร์ทหรูของนายอนุทินที่บริเวณเขาใหญ่ จนเรียกว่า “ปฏิญญาเขาใหญ่”
แม้ด้านหนึ่งนายอนุทินจะทำตัวเป็น “น้องเลิฟ” นายทักษิณ ยกย่องชมเชยตลอดว่า เป็นคนที่ให้โอกาสเข้าสู่เวทีการเมือง แต่หลังผ่านพ้นการเลือก สว.ด้วยกติกาใหม่ ที่ทำเอาวุ่นวายประท้วงยื่นเรื่องร้องเรียนกันพักใหญ่
สุดท้าย สว.ส่วนใหญ่ร่วมค่อนสภาถูกมองว่า มีความเชื่อมโยงกับพรรคภูมิใจไทย แต่อีกด้านหนึ่งก็ดูเหมือนจะชิงไหวขบเหลี่ยมทางการเมืองกันอยู่ในที แม้ว่า “ครูใหญ่” ได้เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าไปพบ “นายใหญ่” เพื่อเคลียร์ใจกันแล้ว แต่ถัดมา วุฒิสภาโดยเสียงส่วนใหญ่ ก็ไม่เอาด้วยกับร่างกฎหมายประชามติของสภาผู้แทนฯ
สะท้อนความหมายการประสาน น่าจะออกมาเป็นแบบเจรจาทางการเมืองเป็นเรื่องๆ ไป แต่กระนั้น ยังมีขี่หรือเกทับให้เห็นอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเรื่องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ถูกนายอนุทินปฏิเสธ ไม่ได้ร่วมวงด้วย และโดยส่วนตัวชอบบะหมี่ อีกยี่ห้อหนึ่งมากกว่า และต่อด้วย
คำประกาศไม่ไปช่วยผู้สมัครนายก อบจ. หาเสียงของนายอนุทิน ในฐานะรัฐมนตรีมหาดไทย ต้องวางตัวเป็นกลาง ซึ่งน่าจะมีนัยอยู่ในที เนื่องจากนายทักษิณได้ขึ้นไปช่วยหาเสียงนายก อบจ.อุดรฯ
ทั้งมีข่าวว่า จะไปหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.สุรินทร์ด้วย ซึ่งเป็นสนามเลือกตั้งที่คนวงในต่างทราบดีว่า เป็นการชิงกันเองระหว่างผู้สมัครในค่ายสีน้ำเงิน
ยังไม่นับเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่ล่าสุด ผู้ว่าการรถไฟฯ หรือ รฟท. ทำหนังสืออุทธรณ์กลับไปยังอธิบดีกรมที่ดิน กรณีคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินเขากระโดง ที่อธิบดีตั้งขึ้น มีมติเอกฉันท์ไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารสิทธิ์ที่ดิน โดยอ้างการรถไฟ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิยืนยันชัดเจน
หลังจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีคมนาคม จากพรรคเพื่อไทย สั่งให้การรถไฟยื่นเรื่องต่อศาลให้เปิดไต่สวน เพื่อให้กรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล จนนายอนุทินต้องออกมาว๊ากเพ้ย เตือนใครต่อใครที่รีบร้อนเรื่องนี้ว่า “อย่ามั่ว”
สองคนดังคนใหญ่นายทักษิณและนายอนุทินจาก 2 พรรคใหญ่ จึงอาจมีทั้งรักทั้ง “ปล่อยของ”ใส่กัน สร้างสีสันให้กับการเมืองไทยไม่ให้เงียบเหงา โดยเฉพาะช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : "ขยะ" โจทย์ใหญ่ ปัญหาวัดฝีมือ นายก อบจ.นครศรีฯ คนใหม่
"สนธิ" ชงสอบมรรยาท "ทนายตั้ม-เดชา" ยัน "เจ๊อ้อย" เดินหน้าคดีไม่เจรจา
"เสือโคร่งสีทอง" สัตว์หายากที่มีต้นกำเนิดจาก "เสือขาว" ตัวเดียว