สั่งโอนคดี "สจ.โต้ง" เข้ากองปราบ-ชี้วางแผนฆ่าไม่ใช่บันดาลโทสะ

ความคืบหน้าคดีนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิง 22 นัดเสียชีวิตในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ จ.ปราจีนบุรี เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค.จนภรรยา ยื่นกองปราบขอโอนคดีคุ้มครองพยาน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันนี้ (14 ธ.ค.2567) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า หลังจาก น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ยื่นเอกสารขอให้โอนสำนวนคดีการตายของ สจ.โต้ง มาที่กองบังคับการปราบปราม เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย

น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ยื่นเอกสารขอให้โอนสำนวนคดี

ภายหลังรับเรื่อง ตำรวจสอบสวนกลางได้รายงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทราบมาว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งอย่างเป็นทางการจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันจะมีความชัดเจนในช่วงต้นสัปดาห์หน้า 

โดยตำรวจสอบสวนกลางจัดชุดทำคดีนี้ไว้แล้ว โดยมอบหมายให้กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเอกสารที่ สจ.จอย ยื่นมานั้น เข้าหลักเกณฑ์ที่ตำรวจสอบสวนกลางกำหนดไว้ เพราะเป็นคดีที่มีความซับซ้อน ผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

อ่านข่าว "ภรรยา สจ.โต้ง" ยื่นกองปราบขอโอนคดี-คุ้มครองพยาน

ปัดตร.อยู่ในคืนยิง "สจ.โต้ง" ชี้มีการวางแผน

พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ในบางประเด็นได้มีความชัดเจน และอยู่ในระหว่างเรียกผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่เหลือมาสอบปากคำให้ครบประเด็น ถึงแม้จะมีกระแสข่าวว่ามีการละเว้นบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ได้เรียกสอบปากคำ แต่ขอให้เชื่อมั่นการทำงานของตำรวจ

อ่านข่าว ยิง "สจ.โต้ง" เสียชีวิตคาบ้านสุนทร วิลาวัลย์

ส่วนกระแสข่าวว่ามีตำรวจอยู่ภายในบ้านยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งการทำคดีนี้ไม่มีอะไรที่ต้องวิตกกังวล

จากประสบการณ์เมื่อเห็นหลักฐานต่าง และข้อมูลจากพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ยืนยันไม่ใช่การบันดาลโทสะ แต่เป็นการวางแผนมาแล้ว จะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุ

พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทีมกองพิสูจน์หลักฐาน กู้ข้อมูล และจะให้ทางกองบังคับการปราบปราม ทำเรื่องขอเสนอผู้บังคับบัญชาให้เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบคดีดังกล่าว

เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรงสะเทือนขวัญ อีกทั้งยังเป็นคดีสำคัญ โดยผู้ร่วมก่อเหตุมีประวัติอาชญากรรมหลายคดี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยจะมีประชุมอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า

อ่านข่าว คุม "สุนทร" นายก อบจ.ปราจีนฯ ลูกน้อง 7 คน สอบปมยิง "สจ.โต้ง"

เรียกสอบ "หมวดใจ" 1 ใน 5 ชุดดูแล สจ.โต้ง 

ขณะที่ตลอดคืนที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสอบสวนของกองปราบปราม กับตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี เรียกสอบ "หมวดใจ" 1 ใน 5 ตำรวจ ชุดดูแลความปลอดภัย สจ.โต้ง และคนที่อยู่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเครียดตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึงเวลา 05.00 น. พร้อมทั้งนำรถตู้ส่วนบุคคลที่มีรอยไฟท้ายด้านขวามีรอยแตก ของ "โกทร" อายัดไว้ สภ.ปราจีนบุรี ส่งให้พิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือ

ร่องรอยกระสุนในที่เกิดเหตุบ้านโกทร

โดยช่วงบ่าย พนักงานสอบสวนจะประสานให้ตำรวจอีก 3 นาย เข้ามาพบเพื่อให้ข้อมูล ส่วนพยานบุคคล เช่น ดาบตำรวจ ศิลปชัย วงษ์นิกร นายกองค์การบริหารสวนตำบลบางเดชะ รวมไปถึงนายกฤษฏิ์ กษมพันธุ์ รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี หรือ สจ.อุ๊ ยังไม่มีความจำเป็นต้องเรียกมาสอบในช่วงนี้ คาดว่าจะถูกเรียกตัวไปสอบหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เซ็นคำสั่งโอนสำนวนให้ทางกองปราบก่อน