วันนี้ (12 ก.พ.2568) ตำรวจคุมตัวนายอรรคกร หรือเพลิน พรมด้วง ผู้ก่อเหตุใช้น้ำมันราด และจุดไฟเผาพ่อค้าแตงโม มาสอบปากคำที่ สน.บางโพงพาง โดยมี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมสอบปากคำ
ระหว่างคุมตัวนายเพลินออกจากห้องสอบสวน นายเพลินอ้างว่าก่อเหตุคนเดียว สาเหตุมาจากปมชู้สาว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้วางแผนการก่อเหตุมาก่อน แต่บันดาลโทสะ เบื้องต้นอยากขอโทษผู้เสียชีวิตและครอบครัว
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยภายหลังสอบปากคำว่า นายเพลินรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เนื่องจากความแค้นปมชู้สาว เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2556 ก็เคยเกิดเหตุที่แฟนเก่าไปคบชู้ และได้ใช้อาวุธปืนยิงชายใหม่ของแฟนเก่า จนต้องติดคุกไป 9 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2564 ต่อมาเมื่อเจอกับ น.ส.กุ๊กไก่ แฟนคนปัจจุบัน ก็คบกันเรื่อยมา และมักจะนำผลไม้มาขายที่วัดดอกไม้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้รู้จักกับนายราเชน ผู้เสียชีวิต และคบหาเป็นเพื่อนสนิทมาตลอด
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhTpCazFPVbj4q48pXuAiFpqJBcd.jpg)
กระทั่งช่วงเดือน ต.ค.2567 เริ่มสงสัยว่าแฟนสาวกำลังนอกใจไปหานายราเชน เมื่อสอบถามก็ได้รับคำปฏิเสธ แต่หลังจากนั้นก็ทะเลาะกันเรื่อยมา ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเริ่มตัดการติดต่อ และตีตัวออกห่างไป ทำให้คิดว่าฝ่ายหญิงน่าจะไปอยู่กับนายราเชนแล้ว โดยสะสมความแค้นมาโดยตลอด
นายอรรคกร ให้ปากคำกับตำรวจ ว่า ก่อนก่อเหตุได้ไปรับจ้างตัดต้นไม้อยู่ที่ย่านพุทธมณฑลกับเพื่อนลูกจ้างอีกคน ชื่อนายติ๊ก จึงได้บอกกับนายติ๊กว่าให้ช่วยไปขับรถกระบะอีกคันกลับ โดยขากลับจะผ่านวัดดอกไม้ และเห็นรถกระบะของ น.ส.กุ๊กไก่ จอดอยู่ จึงตั้งใจจะเข้าไปเคลียร์ใจ หากตกลงกันไม่ได้ ก็จะใช้น้ำมันจุดไฟทำลายรถกระบะของแฟน ซึ่งเมื่อเข้าไปในวัดก็ไม่เจอแฟนสาว แต่เห็นนายราเชนนั่งอยู่ที่รถกระบะ จึงเกิดบันดาลโทสะ ราดน้ำมันจุดไฟเผาทันที
เบื้องต้นตำรวจได้เปลี่ยนข้อหาจากพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยกระทำการทารุณกรรม และวางเพลิงเผาทรัพย์ เนื่องจากนายราเชนเสียชีวิตแล้ว และจะนำตัวนายอรรคกรไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีพฤติการณ์จะหลบหนี
ส่วนกระแสข่าวว่า น.ส.กุ๊กไก่ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เบื้องต้นนายอรรคกรยังไม่กล่าวถึงบุคคลอื่น และจากภาพวงจรปิดก็ยังไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนมูลเหตุจูงใจอื่น ๆ เช่น เรื่องความขัดแย้งในการเก็บค่าที่จอดรถภายในวัด ตำรวจจะขยายผลสอบสวนต่อไป
นอกจากนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำนายติ๊กว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุด้วยหรือไม่ เนื่องจากนายติ๊กอ้างว่าไม่รู้ว่านายอรรคกรจะก่อเหตุวางเพลิงจุดไฟเผานายราเชน ทราบเพียงว่าให้มาเป็นเพื่อนช่วยขับรถ และนายอรรคกรได้บอกให้กลับไปก่อน แต่หากพบว่าเข้าข่ายร่วมกระทำความผิด ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhTpCazFPVbj4q46AgSRAcm8QhZQ.png)
ส่วนคนขับกระบะที่ไปส่งนายอรรคกรที่มุกดาหารนั้น ตำรวจก็เรียกมาสอบปากคำแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็อ้างว่าเพียงทำหน้าที่ส่งคนงานที่จ้างมาหลังเสร็จงานตัดไม้ตามปกติ ไม่ทราบว่าไปก่อเหตุอะไรมา แต่เมื่อทราบก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี และพาตำรวจไปชี้จุดที่ส่งนายอรรคกรลงจากรถ
เมื่อตำรวจติดตามไปถึงมุกดาหาร ก็พบว่านายอรรคกรหนีเข้าป่าหลังรีสอร์ทไปแล้ว ตำรวจต้องปิดล้อมป่า ใช้โดรนบิน ใช้สุนัขตำรวจติดตามดมกลิ่น มุดท่อ และพายเรือตามหาในแม่น้ำ กดดันนานกว่า 1 วัน 1 คืน จนนายอรรคกรหมดหนทางหนี และหิว จึงได้ติดต่อเพื่อนให้นำอาหารมาให้ แต่เพื่อนก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจเพื่อล่อผู้ก่อเหตุออกมา แต่นายอรรคกรไหวตัวทัน สุดท้ายเพราะทนความหิวโหยไม่ไหว จึงออกมาซื้ออาหารที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งตำรวจได้ดักรออยู่แล้ว และเข้าจับกุมตัวได้สำเร็จ
อ่านข่าว : รอง ผบช.น.ยืนยันทำตามยุทธวิธี คดีวิสามัญฯผู้ต้องหาลักรถ
พฤติการณ์ร้ายแรง ! ศาลไม่ให้ประกันตัว 8 รุ่นพี่แก๊งสาดน้ำร้อน
"บิ๊กโจ๊ก" บอกไม่ผิดคาด ศาลยกฟ้องคดี "ตู้ห่าว"