กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบทุจริตเบิกยา โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบมีผู้ร่วมขบวนการทุจริตจำนวนมาก
วันนี้ (6 มี.ค.2568) ที่สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลพบุรี พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการ ปปป.พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสงเคราะห์ทหารส่วนกลาง นำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เอกสารการสอบสวนสืบสวนคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์ แบบฟอร์มตอบคำถามเข้ามาติดตั้ง เพื่อเตรียมการสอบปากคำคนไข้ ตามเวชระเบียนผู้ป่วยในสังกัดโรงพยาบาลทหารผ่านศึก หลังจากออกหมายเรียก 50 คนให้เข้าข้อมูลกับเจ้าหน้าที่
พยานในคดีทุจริตยาเข้าให้ปากคำตำรวจ
พยานในคดีทุจริตยาเข้าให้ปากคำตำรวจ
ตั้งแต่ช่วงเช้า ผู้ถูกออกหมายเรียก 20 คนเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาเพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ มีทั้งเพศหญิง และเพศชาย ถูกเชิญตัวขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ของอาคาร
นอกจากผู้ที่ถูกชักชวนให้เข้าร่วมขบวนการแล้ว จะมีแม่ทีมที่คอยดูแลผู้เข้าร่วมขบวนการับยาที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก เดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ด้วยในฐานะพยาน
ผู้ถูกชักจูงเข้าร่วมขบวนการ ที่มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ในวันนี้ ระบุว่า ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน ถูกชักชวนมาตั้งแต่ปี 2566 จากรู้คนรู้ ทำมาแล้ว 4 ครั้ง ได้รับเงินค่าตอบแทนจากเอายาไปแลกครั้งละ 2,000-3,000 บาท
ส่วนภรรยาถูกชักชวนและทำได้ 2 ครั้ง การเข้าพบแพทย์แต่ละครั้งจะถูกซักซ้อมเพื่อให้ข้อมูลกับแพทย์เพื่อให้ได้ยาตามที่ต้องการ
ยาที่ได้รับจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก จะนำถูกไปแลกเงินตามที่เป็นข่าว ยอมรับรู้สึกกังวลว่าจะถูกดำเนินคดี จึงเดินทางให้ข้อมูลกับตำรวจวันนี้
น.ส.พัชนีย์ พูนสุข หนึ่งในผู้เข้าร่วมเปิดโปงขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก
น.ส.พัชนีย์ พูนสุข หนึ่งในผู้เข้าร่วมเปิดโปงขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก
คาดทุจริตเบิกยามา 10 ปี
ด้านน.ส.พัชนีย์ พูนสุข หนึ่งในผู้เข้าร่วมเปิดโปงขบวนการนี้ ระบุว่า ได้รับข้อมูลจากแม่ทีมเกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าว จึงรวบรวมข้อมูลมานานกว่า 6 เดือน ก่อนจะวางแผนนำคนแฝงตัวเข้าไป เพื่อหาพยานหลักฐาน พร้อมถ่ายคลิปวีดีโอ นำส่งให้คณะกรรมาธิการทหารตรวจสอบ จนนำไปสู่การสอบสวนดำเนินคดี
วันนี้ได้พาผู้ที่ถูกชักชวนใน 1 สายงานที่เข้าร่วมขบวนการกว่า 100 คน โดยแบ่งเป็น 2 วัน วันละ 50 คน พร้อมแม่ทีมมาให้ข้อมูลกับตำรวจ และพบว่ามีอีก 5 สายงานที่ยังไม่ได้ถูกเชิญตัวมาเข้าพบในวันนี้ โดยมีข้อมูลว่าแม่ทีมบางคน มีการข่มขู่ ผู้ถูกชักชวนให้เข้าร่วมขบวนการ เพื่อไม่ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี
ความผิดปกติที่พบในกระบวนการนี้ คือการรับยานอกบัญชี อีกโรงพยาบาลหนึ่ง ทั้งที่มีสิทธิ์รักษาโรงพยาบาลในพื้นที่ จ.ลพบุรี โดยใช้สิทธิ์เบิกตรงจากกรมบัญชีกลาง กระบวนการนี้ดำเนินการมานานกว่า 10 ปีแล้ว
คาดว่าทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีพันเอกหญิง ก. เป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้ ส่วนแพทย์ผู้จ่ายยา ดูข้าราชการระดับสูงจนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เป็นหน้าที่ของตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
กันผู้ถูกชักชวน 70-80 คนเป็นพยาน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ขั้นตอนการสอบปากคำในวันนี้ จะมุ่งเน้นไปในเรื่องของการหาพยานหลักฐาน โดยผู้ที่เข้ามาให้ข้อมูลในวันนี้ จะถูกจัดอยู่ในฐานะพยานมี 70-80 คนที่พนัก งานสอบสวนมองว่าเป็นผู้ป่วย หรือตกเป็นเหยื่อในขบวนการนี้
เมื่อสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว จะนำข้อมูลไปวิเคราะห์และพิจารณาว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำความผิด
พบว่ามีผู้เสียชีวิตในกระบวนการนี้ จะต้องตรวจสอบต่อไปว่าการเสียชีวิตเกี่ยวข้องกับการทุจริตการเบิกยาหรือไม่ และอาจจะเข้าข่ายฐานความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์
ซึ่งต้องให้คณะกรรมการที่เข้าร่วมตรวจสอบทั้งหมด วิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบ ส่วนปลายทางของยาที่ถูกจัดเก็บเอาไว้ไปจำหน่ายต่อ หรือนำไปใช้ประโยชน์ทางไหน เจ้าหน้าที่ยังขอปกปิดข้อมูลตรงนี้เอาไว้ก่อน เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อการสืบสวน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
พิรุธเบิกยานอกบัญชีให้ผู้ป่วย
พญ.จิตติมา ปรีชา ผอ.โรงพยาบาลทหารผ่านศึก กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพฤติกรรมของแพทย์พบมีความผิดปกติ เนื่องจากมีการจ่ายยานอกบัญชีให้กับผู้ป่วยที่เข้าพบภายในครั้งแรก ถือว่าผิดปกติ
เพราะตามหลักแล้วการจ่ายยานอกบัญชี ตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง จะจ่ายยาให้กับผู้ป่วยได้ ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยกินยาในบัญชีแล้วไม่ได้ผล หรือแพ้ยาบางชนิด จึงจำเป็นต้องใช้ยานอกบัญชี ยาในบัญชีจะมีราคาถูกกว่ายานอกบัญชี 30-40 บาทต่อเม็ด ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่กระบวนการต้องการที่จะขอยานอกบัญชี
แพทย์หญิงที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องในกระบวนการ ขณะนี้ถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ส่วนเข้าข่ายผิดในเรื่องของจรรยาบรรณแพทย์หรือไม่ ต้องให้แพทยสภา และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันพิจารณา
พญ.จิตติมา ปรีชา ผอ.โรงพยาบาลทหารผ่านศึก
พญ.จิตติมา ปรีชา ผอ.โรงพยาบาลทหารผ่านศึก
สำหรับสายงานอื่นในขณะนี้ มีรายงานว่าแม่ทีมได้ข่มขู่ ลูกข่ายที่เข้าร่วมในขบวนการทุจริตเบิกยา หากเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจอาจจะถูกดำเนินคดี และอาจจะมีทนายฟ้องกลับ
ตำรวจยืนยันว่าหากผู้ที่ถูกชักชวนเข้าร่วมขบวนการไม่เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ภายใน 3 วันนี้ ทุกคนอาจจะต้องถูกกล่าวหาในฐานะผู้ต้องหา ไม่ใช่ฐานะพยาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีรายชื่อผู้ที่เข้ารับการรักษา และเบิกยาในขบวนการนี้ทั้งหมดแล้ว จากเวชระเบียนของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก