วันนี้ (13 มี.ค.2568) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน หรือ ผอ.ศอ.ปชด ระบุหลังประชุม ศอ.ปชด. และ ติดตามสถานการณ์ชายแดนตรงข้ามอำเภอแม่สอด จ.ตาก ว่า
ที่ประชุมได้หารือการส่งกลับชาวต่างชาติที่อยู่ในชเวโก๊กโก่ และ kk park ซึ่งมีอยู่หลายชาติ ขณะนี้กระบวนการส่งกลับทำได้กว่า 3,000 คนแล้วโดยจำนวน 2600 คน ใช้กระบวนการปฏิเสธเข้าเมือง ส่วนอีก 400 คน ใช้การส่งกลับระดับชาติ (NRM)

จากการตรวจการส่งกลับล่าสุดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยอมรับว่า ทำได้เต็มที่เพียงวันละ 500 คน โดยพบปัญหาความล่าช้าในฝั่งเมียวดี ซึ่งไทยต้องการเร่งส่งต่อเพราะมีคนที่ตกค้างอยู่ในการดูแลของ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ประมาณ 4,000 คน ยังไม่รวมกลุ่มอื่น ๆ ที่ทยอยมาสบทบ
ทั้งนี้ พบว่า ยังมีชาวแอฟริกันที่ต้องติดต่อสถานทูต แต่ยังไม่มีตัวแทนเข้ามาช่วยเหลือ เช่น เอธิโอเปีย ขณะนี้ใช้กงสุลประเทศอินเดีย ล่าสุดได้พูดคุยกับ NGO ที่ชำนาญเรื่องการส่งกลับคนที่มาจากแถบแอฟริกา ซึ่งจะช่วยประสานงานให้ แต่ยังมีเรื่องที่ต้องตัดสินใจ คือ กระบวนการส่งกลับในยามวิกฤต ซึ่งมีมาตรการอยู่แล้ว แต่เนื่องจากเป็นการส่งกลับคนจำนวนมากจึงจำเป็นต้องปรับปรุง โดยเฉพาะในพื้นที่และเหตุการณ์นี้ ไม่เช่นนั้นกระบวนการส่งกลับคนนับหมื่นจะเป็นไปได้ยากมาก และต้องรับผิดชอบผลทางกฎหมายในประเทศอีกมากพอสมควร

นอกจากนี้ ในการประชุมยังหารือถึงการแก้ปัญหาคนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพราะยังมีการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ จากกรณีที่มีบริษัทฝั่งตรงข้ามชายแดนไทยปิดตัวลง ซึ่งส่งผลมาจากมาตรการที่ไทยได้กำหนดไว้ ทำให้มีคนหนีข้ามกลับมาจำนวนมากทั้งนี้กองกำลังนเรศวร รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองได้ควบคุมตัวไว้ จึงต้องเพิ่มมาตรการคุมเข้มมากขึ้น
อ่านข่าว : จเรตำรวจเผยยังมีคนไทยนับพัน อยู่ในแก๊งคอลเซนเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนคนที่เข้ามาถึง อ.แม่สอด ทางจังหวัดได้มีมาตรการ 4 ขั้นตอน คือ คัดกรอง สกัดกั้นตรวจค้นและพูดคุยกับผู้ประกอบการ เพื่อไม่ให้มีการช่วยเหลือให้ที่พักพิง มาตรการนี้ได้คัดกรองคนออกไปถึง 800 คนในช่วงที่ผ่านมา

พล.อ.ทรงวิทย์ ยังระบุว่า มีข้อเสนอจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และทางจังหวัดคาดว่า จะมีการประกาศใน 5 อำเภอสำคัญของ จ.ตาก เฉพาะในเหตุการณ์นี้ให้เป็นพื้นที่พิเศษ คุมเข้มผู้ที่จะเดินทางเข้ามากรณีไม่มีเหตุจำเป็น ไม่มีแผนเดินทาง ปลอมแปลงเอกสารหรือเอกสารไม่ถูกต้อง มีเงินติดตัวจำนวนน้อยผิดปกติ จะต้องผลักดันกลับไป เพราะคงไม่ใช่นักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ซึ่งคนกลุ่มนี้แม้เข้าประเทศไทยมาถูกกฎหมาย แต่เกิดปัญหาอยู่เกินกำหนด (overstay) ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะต้องพูดคุยกับสถานทูตต่าง ๆ
สำหรับกรอบเวลาการประกาศพื้นที่พิเศษ จะพิจารณาเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งอาจพิจารณานำรูปแบบที่เคยมีการกำหนดพื้นที่พิเศษในสถานการณ์โควิดมาปรับใช้ โดยจะเสนอ สมช.หากได้รับการเห็นชอบก็จะประกาศพื้นที่พิเศษใน จ.ตาก และจะให้ทาง สมช.วางเวลา และ มีขอบเขตการประกาศที่ชัดเจน ซึ่งจะประกาศเป็นช่วง ๆ เช่น กำหนดระยะเวลา 3 เดือนเพื่อเร่งแก้ปัญหา ทั้งนี้หากไม่มีการตัดสินใจนำมาตรการใหม่ ๆ มาใช้ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติในพื้นที่ก็จะเหนื่อยมาก

ส่วนสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการ คอลเซนเตอร์ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะจานดาวเทียมได้มีการหารือกับทางศุลกากรในเบื้องต้นเพื่อกำหนดให้เป็นสินค้าห้ามนำเข้า โดย สมช.จะเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง
ส่วนมาตรการ 3 ตัดที่ดำเนินการมากว่า 1 เดือนแล้ว ผบ.ทสส.ระบุว่า ได้ผลในเชิงปฏิบัติการ โดยจะเห็นได้จากปริมาณการใช้ไฟฟ้าในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่น่าจะลดลงตามข้อจำกัดด้านพลังงาน แต่ยืนยันว่า มีผลสัมฤทธิ์อย่างแน่นอน

ส่วนมาตรการคุมเข้ม ท่าข้าม 59 จุดที่ไม่ได้อยู่ใน พระราชบัญญัติเป็นช่องทางข้ามแดนถาวร ผบ.ทสส.ย้ำว่า จุดเหล่านี้ไม่สามารถนำคนข้ามได้ ดังนั้นจะต้องมีการซีลชายแดน และลาดตระเวนอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการควบคุมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซนเตอร์
ทั้งนี้ ได้เตรียมประสานกับกระทรวงการต่างประเทศให้ส่งเจ้าหน้าที่มาประจำที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก เพื่อประสานงานในเรื่องเหล่านี้ เพราะหลายเรื่องจำเป็นต้องมีการติดต่อสื่อสารผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ โดยมาตรการทั้งหมดนี้จะรายงานต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ซึ่งนายกฯ ให้นโยบายว่าหากแก้ปัญหาไม่จบก็ไม่เลิกมาตรการคุมเข้ม
อ่านข่าว : จเรตำรวจปัดเอธิโอเปียลอยแพ 100 คนเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์
ซีลชายแดนอีสานใต้ เฝ้าระวังแก๊งคอลเซนเตอร์ฝั่งกัมพูชา
บีจีเอฟหยุดค้นรัง "แก๊งคอลเซนเตอร์" จี้แต่ละชาติมารับคนของตัวเองกลับ