ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สปสช.แจงข้อมูลรั่ว 1.3 แสนรายการไม่ได้หลุดจากระบบ A-MED Care Plus

สังคม
27 มี.ค. 68
21:21
940
Logo Thai PBS
สปสช.แจงข้อมูลรั่ว 1.3 แสนรายการไม่ได้หลุดจากระบบ A-MED Care Plus
อ่านให้ฟัง
04:12อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สปสช.และ สวทช.ชี้แจงเหตุการณ์ข้อมูลโดนจารกรรม 1.3 แสนรายการ ไม่ได้หลุดจากระบบ A-MED Care Plus แต่เป็นขั้นตอนคัดลอกข้อมูลเพื่อประมวลผลรายงาน ไม่เชื่อมโยงระบบอื่น เป็นข้อมูลเฉพาะบริการในคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น

กรณีโซเชียลมีเดียเผยแพร่ว่าพบการรั่วไหลของข้อมูลจากโปรแกรม A-MED Care Plus ที่พัฒนาโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

วันนี้ (27 มี.ค.2568) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. ชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้หลุดจากฐานข้อมูลของระบบ A-MED Care Plus โดย สปสช. ได้รับแจ้งจาก สวทช.เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว

ทพ.อรรถพร เปิดเผยว่า ช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีข้อมูลที่โดนจารกรรมประมาณ 1.3 แสนรายการ จากขั้นตอนในช่วงที่มีการคัดลอกข้อมูล เพื่อมาทำฐานข้อมูลชั่วคราวสำหรับการประมวลผลรายงาน ส่งให้กับคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น ซึ่งเป็นระบบเดี่ยวที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับระบบใด จึงทำให้เหตุการณ์นี้ไม่มีผลกระทบต่อหน่วยบริการทั้งหมด และไม่มีผลกระทบต่อระบบ A-MED Care Plus และระบบที่เชื่อมโยงกับ A-MED Care Plus รวมถึงไม่มีผลกระทบต่อระบบการเบิกจ่ายกับ สปสช.

ด้าน ศ.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช.ดำเนินการแก้ไขเพื่อป้องกันระบบได้ภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) โดยได้ย้ายฐานข้อมูลชั่วคราวสำหรับการประมวลผลรายงานให้มาอยู่ในคลาวด์ภาครัฐ (GDCC) ที่มีความปลอดภัยและมั่นคงสูงแทน

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีข้อมูลประมาณ 1.3 แสนรายการที่อาจจะถูกเข้าถึงได้ โดยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมลและเบอร์โทรศัพท์ของผู้รับบริการแพทย์แผนไทย โดยได้แจ้ง สปสช.ให้รับทราบสถานการณ์ และ สวทช.ได้ดำเนินการแจ้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)

พร้อมทั้งแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อหาผู้กระทำผิดและจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด รวมทั้งเพิ่มระบบมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันความเสี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดภัยทางไซเบอร์ในรูปแบบเดียวกันอีกในอนาคต

ทั้งนี้ สปสช.ได้แนะนำให้ประชาชนที่เคยรับบริการแพทย์แผนไทยในคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น ระมัดระวังอย่าหลงเชื่อข้อความสั้น (SMS) เพื่อหลอกให้กดลิงก์ หรือหลอกให้โอนเงินทางโทรศัพท์ โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ หรือการกระทำอื่นใดที่มีที่มาไม่ชัดเจนหรือยืนยันไม่ได้ และหากพบเหตุการณ์ดังกล่าวแจ้งได้ที่สายด่วน สปสช. 1330

อ่านข่าว

"มาดามเเป้ง" ขอเคลียร์หนี้ ก่อนฟ้อง "สมยศ"

"วิโรจน์" จ่อยื่นสรรพากรตรวจสอบตั๋ว PN นายกฯ แพทองธาร

เปิดไทม์ไลน์ ใช้ "E - Ticket" หวังปิดช่องทุจริตขายตั๋วเข้าอุทยานฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง