ช่วงเวลาที่ค่าครองชีพสูงขึ้นและความท้าทายในการดึงดูดบุคลากรคุณภาพเข้าสู่ระบบราชการเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ อดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้แสดงความมุ่งมั่นในการปฏิรูประบบราชการผ่านการปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครั้งใหญ่
เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2566 ครม. มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกวุฒิการศึกษา รวมถึงข้าราชการครู บุคลากรในศาล และองค์กรอิสระ โดยกำหนดให้เพิ่มเงินเดือนแรกบรรจุร้อยละ 10 จำนวน 2 รอบ ในวันที่ 1 พ.ค.2567 และ 1 พ.ค.2568 พร้อมจัดสรรเงินชดเชยสำหรับข้าราชการเดิมที่ได้รับผลกระทบและเงินเพิ่มเพื่อการครองชีพชั่วคราว ด้วยงบประมาณรวมกว่า 16,000 ล้านบาทใน 2 ปี
รายละเอียดการปรับอัตราเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา
การปรับเงินเดือนครั้งนี้มุ่งเน้นข้าราชการบรรจุใหม่ โดยกำหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุใหม่ ดังนี้
วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ตัวอย่างตำแหน่ง : เสมียน เจ้าหน้าที่ธุรการ ช่างฝีมือระดับต้น
- เดิม : 9,400-10,340 บาท
- 1 พ.ค.2567 : 10,340-11,380 บาท (เพิ่มร้อยละ 10)
- 1 พ.ค.2568 : 11,380-12,520 บาท (เพิ่มร้อยละ 10 จากปี 2567)
วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ตัวอย่างตำแหน่ง : ช่างเทคนิค เจ้าหน้าที่ธุรการระดับสูง
- เดิม : 11,500-12,650 บาท
- 1 พ.ค.2567 : 11,500-12,650 บาท (คงเดิมในบางหน่วยงาน)
- 1 พ.ค.2568 : 13,920-15,320 บาท (เพิ่มร้อยละ 10 จากปี 2567)
วุฒิปริญญาตรี ตัวอย่างตำแหน่ง : ครูผู้ช่วย นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน
- เดิม : 15,000-16,500 บาท
- 1 พ.ค.2567 : 16,500-18,150 บาท (เพิ่มร้อยละ 10)
- 1 พ.ค.2568 : 18,150-19,970 บาท (เพิ่มร้อยละ 10 จากปี 2567, ขั้นต่ำ 18,000 บาท)
วุฒิปริญญาโท ตัวอย่างตำแหน่ง : นักวิชาการระดับสูง อาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษา
- เดิม : 17,500-19,250 บาท
- 1 พ.ค.2567 : 19,250-21,180 บาท (เพิ่มร้อยละ 10)
- 1 พ.ค.2568 : 21,180-23,300 บาท (เพิ่มร้อยละ 10 จากปี 2567)
วุฒิปริญญาเอก ตัวอย่างตำแหน่ง : อาจารย์มหาวิทยาลัย นักวิจัยระดับสูง
- เดิม : 21,000-23,100 บาท
- 1 พ.ค.2567 : 23,100-25,410 บาท (เพิ่มร้อยละ 10)
- 1 พ.ค.2568 : 25,410-27,960 บาท (เพิ่มร้อยละ 10 จากปี 2567)

กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการปรับเงินเดือน
การปรับเงินเดือนครอบคลุมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้
- ข้าราชการพลเรือนสามัญ เช่น เจ้าหน้าที่ในกระทรวง ทบวง กรม
- ข้าราชการทหาร เช่น สัญญาบัตรชั้นยศต่ำในกองทัพ
- ข้าราชการตำรวจ เช่น สัญญาบัตรตำรวจชั้นประทวนและสัญญาบัตร
- ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เช่น ครูผู้ช่วย อาจารย์ในสถานศึกษา
- ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา เช่น อาจารย์และเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย
- ข้าราชการรัฐสภาสามัญและพนักงานราชการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ในสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
- ข้าราชการในหน่วยธุรการของศาล
- สำนักงานศาลยุติธรรม
- สำนักงานศาลปกครอง
- สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
- ข้าราชการในองค์กรอิสระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
- สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
- สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
- สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
- ข้าราชการธุรการอัยการ เจ้าหน้าที่ในสำนักงานอัยการสูงสุด
เงินชดเชยสำหรับข้าราชการเดิม
เพื่อรักษาความเป็นธรรม ข้าราชการเดิมที่มีเงินเดือนใกล้เคียงหรือต่ำกว่าข้าราชการบรรจุใหม่จะได้รับเงินชดเชย เช่น ข้าราชการวุฒิปริญญาตรีที่มีเงินเดือน 17,000 บาท อาจได้รับเงินชดเชยเพิ่มเพื่อให้สอดคล้องกับอัตราใหม่ที่ 18,150 บาทในปี 2568 สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินชดเชย โดยจะแจ้งแนวปฏิบัติไปยังหน่วยงานภายในปี 2567
เงินเพิ่มเพื่อการครองชีพชั่วคราว
กระทรวงการคลังจัดสรรงบประมาณปีละ 3,000 ล้านบาท เพื่อปรับเงินเพิ่มเพื่อการครองชีพชั่วคราวสำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อย ดังนี้
- ข้าราชการที่มีเงินเดือนรวมค่าครองชีพชั่วคราวต่ำกว่า 14,600 บาท จะได้รับเงินเพิ่ม 2,000 บาท/เดือน แต่รวมแล้วไม่เกิน 14,600 บาท (จากเดิม 13,285 บาท)
- ข้าราชการที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 11,000 บาท จะได้รับเงินเพิ่มจนถึง 11,000 บาท (จากเดิม 10,000 บาท)
การปรับนี้ช่วยให้ข้าราชการที่มีรายได้ต่ำ เช่น เสมียนหรือเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ
การปรับเงินเดือนครั้งนี้ใช้เงินงบประมาณ ดังนี้
- ปี 2567 : 7,200 ล้านบาท
- ปี 2568 : 8,800 ล้านบาท
- เงินเพิ่มเพื่อการครองชีพชั่วคราว ปีละ 3,000 ล้านบาท
ส่วนราชการจะใช้จ่ายจากงบประมาณของตนเองก่อน หากไม่เพียงพอจะได้รับการสนับสนุนจากงบกลาง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2567 ได้จัดสรรวงเงิน 842,001 ล้านบาท เพื่อรองรับการปรับเงินเดือนและนโยบายอื่น ๆ
3 เป้าหมายหลัก ปรับเงินเดือนข้าราชการ
- ยกระดับคุณภาพชีวิต ช่วยให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยมีรายได้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น
- ลดความเหลื่อมล้ำ เงินชดเชยช่วยให้ข้าราชการเดิมไม่เสียเปรียบเมื่อเทียบกับข้าราชการบรรจุใหม่
- ดึงดูดบุคลากรคุณภาพ อัตราเงินเดือนที่แข่งขันได้มากขึ้นจะช่วยดึงดูดผู้มีความสามารถเข้าสู่ระบบราชการ แทนการไหลไปสู่ภาคเอกชน
นอกจากนี้ การปรับเงินเดือนยังเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบราชการให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในหน่วยงานที่ต้องการบุคลากรที่มีทักษะสูง เช่น ครู อาจารย์มหาวิทยาลัย และนักวิชาการ
ทั้งนี้ อัตราเงินเดือนที่ระบุเป็นกรอบทั่วไป เงินเดือนจริงอาจแตกต่างกันตามเงินประจำตำแหน่งหรือเงินเพิ่มพิเศษ เช่น ครูที่มีวิทยฐานะอาจได้รับเงินเพิ่มตามหลักเกณฑ์ของ ก.ค.ศ. และยังมีความท้าทายด้านการจัดสรรงบประมาณจำนวนมากอาจส่งผลต่อการลงทุนในด้านอื่น ๆ หากเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ต้องสื่อสารแนวปฏิบัติให้ชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนในหมู่ข้าราชการ
ที่มา : สำนักงาน ก.พ., สำนักงาน ก.ค.ศ., กระทรวงการคลัง, มติ ครม. 28 พ.ย.2566
อ่านข่าวอื่น :
"ปานเทพ" หอบหลักฐาน มอบ"ดีเอสไอ" ตรวจสอบคดี ตึก สตง.ถล่ม
93 ประเทศ "วีซาฟรี" 2 เดือนแรกปี 68 นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยสูงสุด
เปิดอัตราเงินเดือนข้าราชการใหม่ ปี 2567 หลัง ครม.เคาะปรับขึ้น 10%