ความวัว ยังไม่ทันหาย ความ(เรื่อง)ใหม่และใหญ่ ก็มารัว ๆ วันนี้ ( 23 เม.ย. 2568) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมกำลังนำหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าจับกุมตัว นางขนิษฐา หรือ ดร.นิด ในข้อหาร่วมกันเอาไปเสีย ซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ตาม ป.อาญา มาตรา 188 ที่บ้านพักย่านบางบอน กทม.
โดยถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดด้วยการนำข้อสอบของคณะนิติศาสตร์ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกไปให้อดีตบิ๊กตำรวจนายหนึ่ง เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2566 หลังสืบสวนพบ คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการนี้ทั้งหมด 5 คน
ผู้ต้องหาเป็นผู้ลักลอบนำข้อสอบนำเอกสาร มาจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลหลักสูตรพิเศษ ของมหาวิทยาลัย โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่มีส่วนรู้เห็น ต่อมามีการทวงถามจนผู้ต้องหานำไปคืน สอดคล้องกับอดีตนายพลที่เป็นผู้เรียนในหลักสูตร พบข้อมูลว่ามีการเลื่อนสอบแยกคนเดียว โดยอ้างเหตุผลติดธุระต่าง ๆ
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ระบุว่า ข้อมูลการสืบสวนยังพบอีกว่ามีนายตำรวจคนสนิทของอดีตนายพลตำรวจ เข้ามาช่วยประสานงานโดยมีหลักฐานเป็นการพูดคุย และยังพบเส้นทางการเงินโอนระหว่างผู้ต้องหาหญิงในคดีเว็บการพนัน มาให้กับผู้ต้องหาในคดีนี้ จำนวน 5 ครั้ง เป็นเงิน 3-4 แสนบาท จึงสันนิษฐานว่ามีขบวนการลักลอบนำข้อสอบออกมาให้กับอดีตบิ๊กตำรวจนายนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างขยายผลไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป
ยาวไป หลังจาก ศาลพิพากษาจำคุกอดีต 2 อัยการ คือ “เนตร นาคสุข” 3 ปี ฐานใช้อำนาจสั่งฟ้องคดีคดี “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ซิ่งรถสปอร์ต ชน ตร.สน.ทองหล่อดับเมื่อ ก.ย.2555 โดยมิชอบ มีเจตนาช่วยเหลือให้รับโทษน้อย ส่วน ชัยณรงค์ แสงทองอร่าม 2 ปี ฐานอวดอ้างตน และกล่าวอ้างสถานะของตนเองให้รู้บทบาท ให้คนอื่นรู้ว่าตนเองเป็นอัยการ และใช้ตำแหน่งแทรกแซงไม่ให้พนักงานสอบสวนทำหน้าที่อย่างอิสระ เป็นการกระทำความผิดส่วนตัว
ไม่รอช้า “ธีรัจชัย พันธุมาศ” สส.กทม.พรรคประชาชน บอก คดีนี้สะเทือนใจตำรวจทุกคน แต่สิ่งสำคัญ ยังไม่มีการติดตามตัว บอส อยู่วิทยา อย่างแท้ จริง ตนเคยพบเบาะแสว่า “บอส” อยู่วิทยา เดินทางไปรีสอร์ท บนเกาะโลคารา ประเทศฟิจิ บ่อยครั้ง ในปี 63-64 และได้ส่งเบาะแสนี้ ให้กับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ความเคลื่อนไหวล่าช้า
“ผมอยากให้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นลูกหลานตำรวจ เร่งรัดและ ติดตาม นำตัว บอส มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ ส่วนจะผิดหรือถูก ก็ไม่เป็นไร แต่รัฐบาลไม่ควรจะนิ่งดูดายอีกต่อไป”
ไม่ซื้อเอาเท่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังตรวจเยี่ยมการสาธิตยุทธโธปกรณ์ สำหรับช่วยลดฝุ่นและดับไฟป่า โดยบริษัทเอกชนร่วมทุนกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศว่า การจัดซื้ออาวุธของกองทัพมีกรอบ 3 ด้านคือ ความต้องการต้องสอดคล้องภารกิจ ไม่ใช่ซื้อมาแค่ความเท่ , ประสิทธิภาพในการใช้งานและสอดคล้องกับสถานการณ์ , เหมาะสมกับงบประมาณและการปฎิบัติงานในพื้นที่ เช่น ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
“การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วย ก็สามารถตัดลดกำลังพลลงไปได้ ...ขณะเดียวกันต้องพิจารณาถึงกรอบอัตรากำลังพล ตั้งแต่ระดับโรงเรียนทหารว่าจะมีรับเข้ามาจำนวนเท่าไหร่ทั้ง โรงเรียนนายสิบ โรงเรียนนายร้อย ...การปฏิรูปกองทัพจะเป็นรูปธรรมภายในปี 2580 และต้องสอดคล้องกับภารกิจและภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกยุคปัจจุบัน” “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม ระบุ
ตรวจแล้ว ตกซ้ำ! มาตรฐานเหล็กเส้นข้ออ้อย 20 ม.ม “ซินเคอหยวน” พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผย ผลตรวจสอบของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย หลังเข้าเก็บตัวอย่างเหล็กร่วมกับดีเอสไอ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา
พบเหล็กเส้นข้ออ้อยขนาด 20 มม. SD40T กรรมวิธีผลิตแบบ IF ยี่ห้อ SKY ตกทดสอบค่ามวลต่อเมตร (เหล็กเบา) เหมือนการทดสอบครั้งก่อนเมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย.
หลังจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรม จะส่งต่อผลการตรวจสอบให้กับดีเอสไอใช้ประกอบหลักฐานในสำนวนเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงกรณีอาคาร สตง. ถล่ม ซึ่งไม่เกี่ยวกับการตรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ผลิตในเรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ที่ได้มีการดำเนินการไปก่อนหน้าแล้ว โดยใช้หลักฐานตามผลตรวจครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2568
“รอบนี้ผลตรวจพบเหล็กเส้นข้ออ้อยขนาด 20 มม. SD40T ของผู้ผลิต บริษัทซินเคอหยวน ตกค่ามวลต่อเมตร (เหล็กเบา) เหมือนรอบก่อน ส่วนเหล็กข้ออ้อย 32 มม. ที่เคยตกค่า yield รอบนี้ผ่านการทดสอบแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการตรวจ ไม่มีการเลือกปฏิบัติจากภาครัฐ”
เปิดตัวพยานใหม่ อ้างรู้เห็นขบวนการทุจริต ก่อสร้าง อาคาร สตง.แห่งใหม่ “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหา วิทยาลัยรังสิต นำอดีตข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พร้อมหลักฐานเอกสารการประชุมในการก่อสร้างอาคาร วิดีโอการสนทนาระหว่างบุคคล และเสียงการสนทนา ตั้งแต่ปี 2563-ปัจจุบัน มอบให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอใช้พิจารณาดำเนินคดีพิเศษ
ขณะที่ อดีตข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่อ้างว่า เคยใกล้ชิดข้าราชการระดับสูงในสตง. และเป็น 1 ใน 6 คณะกรรมการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ระบุว่า รู้เห็นพฤติกรรมผิดปกติที่ส่อในเชิงทุจริตโครงการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ และมีเสียงบันทึกการสนทนาระหว่างบุคคล ที่ถูกบันทึกและใช้ให้ตัวเองไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย หลายครั้งเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ดังกล่าว
ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามว่า จะหาตัวผู้รับผิดชอบตึกสตง.ถล่มได้หรือไม่ แม้เหตุการณ์นี้จะผ่านมาเกือบครบเดือนแล้วก็ตาม
อ่านข่าว
“บิ๊กแจ๊ส” เปิดเกมเขย่าบ้านใหญ่ ศึกชิงนายกฯเล็ก "เมืองปทุมธานี"