ร้องรัฐทบทวน-ชะลอจ่ายค่าปรับคลองด่าน หวั่นสูญ 9.6 พันล.-แนะดึงคดีทุจริตพิจารณา
วันนี้ (19 พ.ย.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตแกนนำประชาชน ต.คลองด่านและมูลนิธิบูรณะนิเวศ ร่วมกันแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่เห็นชอบให้สำนักงบประมาณเบิกจ่ายงบประมาณ รวมเป็นเงินกว่า 9.6 พันล้านบาท เพื่อชำระค่าเสียหายแก่บริษัทเอกชน ที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด โดยแบ่งการชำระเงินออกเป็น 3 งวด งวดแรกภายในวันที่ 21พ.ย.2558 ต้องชำระร้อยละ 40 ของค่าเสียหายทั้งหมด วงเงิน 3,174 ล้านบาท และอีกกว่า 21.17 ล้านเหรียนสหรัฐ งวดที่ 2 ภายในวันที่ 21 พ.ค.2559 ชำระร้อยละ 30 เป็นเงิน 2,380 ล้านบาท และอีกกว่า 16.88 ล้านเหรียญสหรัฐ และงวดที่ 3 ภายในวันที่ 21พ.ย.2559 ชำระร้อยละ 30 ของค่าเสียหายทั้งหมดหรือ 2,380 ล้านบาท และอีกกว่า 16.88 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการชำระเงินแก่บริษัทเอกชน และเห็นว่ายังมีช่องทางที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายจากการตัดสินใจของกลุ่มร่วมค้า NVPSKG ได้
ก่อนหน้านี้รัฐบาลมีคำสั่งยกเลิกสัญญาโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2546 ด้วยเหตุผลและหลักฐานสำคัญคือ บริษัทเอกชนทำผิดเงื่อนไขของการทำสัญญา Turn Key นอกจากนี้จากการตรวจสอบการทุจริตของคณะกรรมการที่รัฐบาลได้แต่งตั้งขึ้นมา พบว่าการรวบรวมที่ดินเพื่อขายแก่โครงการมีการทุจริตและเป็นการรวบรวมที่ดินโดยมิชอบ ดังนั้นการที่รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 พ.ย.ให้ชำระเงินค่าเสียหายแก่บริษัทเอกชนจึงเป็นมติที่ควรจะต้องทบทวนและชะลอไว้ก่อน เพราะยังมีการพิจารณาคดีที่รัฐบาลควรพิจารณาประกอบก่อนชำระเงินดังกล่าว