จารึกชื่อ
หน้าอาคาร Capitol Records ศูนย์กลางกระแสบีทเทิลมาเนียร์ในสหรัฐฯ เมื่อเกือบครึ่งศตวรรษที่แล้วกลายเป็นที่ชุมนุมของสาวกสี่เต่าทองอีกครั้งเพื่อร่วมเป็นพยานในการประดับดาวดวงที่ 2,460 บน Hollywood Walk of Fame ของ พอล แม็คคาร์ทนีย์ โดยนับเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของ The Beatles ที่ได้รับเกียรติดังกล่าว ตามหลังเพื่อนร่วมวงอย่าง จอห์น เลนนอน และ จอร์จ แฮร์ริสัน ซึ่งได้รับการจารึกชื่อหลังเสียชีวิตเมื่อปี 1988 และ ปี 2009 และ ริงโก สตาร์ ที่ถูกจารึกเมื่อ 2 ปีก่อน
โดยการเลือกจัดงานเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นเหมือนการรำลึกครอบรอบ 48 ปีที่สี่เต่าทองเปิดการแสดงออกอากาศทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในสหรัฐในรายการ Ed Sullivan Show ที่มีชาวอเมริกันร้อยละ 40 หรือกว่า 74 ล้านคนทั่วประเทศติดตามการแสดงครั้งนั้น จนกระแสบีทเทิลมาเนียระบาดไปทั่วสหรัฐฯ และ ทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน
หลังจากสี่เต่าทองยุบวง แม็คคาร์ทนีย์ ยังคงสร้างสรรค์ผลงานบนถนนดนตรีอย่างต่อเนื่อง ทั้งในฐานะศิลปินเดี่ยว และ สมาชิกของวง Wings ด้วยเสียงร้องที่ไพเราะและทำนองดนตรีชวนฟัง ทำให้ผลงานของเขาได้รับความนิยมอยู่เสมอ และ กลายเป็นอดีตสี่เต่าทองที่ประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินเดี่ยวมากที่สุด
แม้ปีนี้ เซอร์ พอล แม็คคาร์ทนีย์ จะย่างสู่วัย 70 ปีแล้ว แต่แรงสร้างสรรค์อันเต็มเปี่ยมยังคงสะท้อนในผลงานหลากหลายตลอดปีนี้ ทั้งอัลบั้มล่าสุดอย่าง Kisses on the Bottom ผลงานคารวะศิลปินรุ่นเก่า จนถึงโปรเจ็กต์แต่งเพลงประกอบให้กับวิดีโอเกม ได้รับเลือกเป็นศิลปินเอกในการแสดงงาน Diamond Jubilee เพื่อเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปีของพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในเดือนมิถุนายน รวมถึงการแสดงพิเศษสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงลอนดอนในเดือนกรกฏาคมนี้
แม็คคาร์ทนีย์ กล่าวว่า ในฐานะเด็กที่โตมากับสำเนียงดนตรีร็อกแอนด์โรล์อเมริกัน เขาไม่นึกฝันว่าวันหนึ่ง จะถูกจารึกชื่อร่วมกับศิลปินที่เขาชื่นชม ทั้งหมดคงเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าหากปราศจากความช่วยเหลือของ จอห์น, จอร์จ และ ริงโก เพื่อนร่วมวง The Beatles ผู้เปรียบดังแรงผลักดันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จจนทุกวันนี้