รมว.คลังยันไม่ผลักภาระค่าธรรมเนียมธนาคารชำระหนี้กองทุนฯให้ประชาชน

การหารือระหว่างกระทรวงการคลังธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ ต่ออัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียมธนาคารพาณิชย์ เพื่อสมทบเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เพื่อชำระหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัตนาระบบสถาบันการเงิน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยืนยันจะไม่ผลักภาระให้ประชาชน

ในการหารือระหว่างนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยเสร็จสิ้นลงแล้วในช่วงเช้า ซึ่งนายกิตติรัตน์ได้นำผลสรุปเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบ และจะแถลงข่าวภายหลังต่อตัวเลขอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ นายกิตติรัตน์ย้ำว่าอัตราที่จะประกาศเชื่อว่าจะไม่เป็นการผลักภาระให้กับประชาชน ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่าผลการหารือเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่าย

ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเสนอแนวทางในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มระหว่างร้อยละ 0.55 - 0.6 จากเดิมร้อยละ 0.4 โดยอาจจัดเก็บอัตราตายตัว หรือแบบขั้นบันได ขณะที่ก็มีการพูดถึงอัตราจัดเก็บอีกแนวทางคือจัดเก็บที่อัตราร้อยละ 0.52 โดยส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น เท่ากับอัตราที่ธนาคารพาณิชย์จะได้รับประโยชน์จากนโยบายลดภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 23

แต่อัตราหลังจะทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยชำระหนี้ในกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะดอกเบี้ย ได้ในปีแรกๆ เท่านั้น และกระทรวงการคลังอาจต้องจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือแก้ปัญหาในเรื่องของต้นทุนการดำเนินงานของธนาคารรัฐกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และกระทบกับการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์กับธนาคารของรัฐ