จากกรณี สายการบินแห่งหนึ่งทำการตลาด โดยให้ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วโดยสารสำหรับตุ๊กตาลูกเทพได้ วันนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เชิญตัวแทนสายการบินและสนามบินที่ให้บริการในไทยมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติการในการนำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่อง เพื่อให้มีหลักปฏิบัติเดียวกันและสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินในระดับสากล
วันนี้ (27 ม.ค. 2559) นายจุฬา สุขมานพ ผอ.กพท. กล่าวว่า เบื้องต้นจะประกาศสถานะให้ตุ๊กตาลูกเทพเป็นสัมภาระ ไม่ใช่ผู้โดยสาร เพราะตามกติกาการบินสากลกำหนดให้ผู้โดยสารต้องเป็นคนเท่านั้น ดังนั้นห้ามสายการบินเปิดขายตั๋วโดยสารพิเศษเป็นการเฉพาะให้ตุ๊กตาลูกเทพ รวมทั้งห้ามใส่รหัสเป็นการเฉพาะระบุในตั๋วโดยสาร แต่ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วเพิ่มให้ตุ๊กตาได้ในฐานะที่เป็นสัมภาระ วางไว้บนที่นั่ง โดยใช้ชื่อผู้โดยสารจองซื้อ
ส่วนผู้โดยสารที่นำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่องโดยไม่ได้ซื้อตั๋วเพิ่ม จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการจัดเก็บสัมภาระบนเครื่องบินอย่างเคร่งครัด โดยระหว่างที่เครื่องบินขึ้น-ลง ต้องนำสัมภาระ หรือตุ๊กตาลูกเทพ ไปจัดเก็บไว้บริเวณใต้ที่นั่ง หรือจัดเก็บภายในที่เก็บสัมภาระบริเวณเหนือศีรษะให้เรียบร้อย หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะถือว่ามีความผิดตามมาตรา 7 ของ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่แนวทางการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนนำตุ๊กตาขึ้นเครื่องบิน ผู้โดยสารต้องนำตุ๊กตาผ่านเครื่องเอ็กซเรย์หาวัตถุอันตรายตามปกติ ส่วนกรณีมีการใส่เมล็ดพืชมงคลบางชนิดเข้าไปในตัวตุ๊กตาลูกเทพเพื่อสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ อาจถูกบางประเทศ เช่น แถบยุโรป และออสเตรเลีย เรียกตรวจความปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษ ตามกฎหมายว่าด้วยการกักกันพืชและสัตว์ ซึ่งเป็นระเบียบปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่เกี่ยวข้องกับมาตรการการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่เกิดจากพืชและสัตว์ได้
ผศ.ดนัย ปรีชาเพิ่มประสิทธิ์ ประธานโครงการปริญญาโทพุทธศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากการประเมินในทางพระพุทธศาสนา อาจสะท้อนว่าพระพุทธศาสนากำลังอ่อนแอ ขณะที่พระสงฆ์ก็ไม่สามารถเผยแพร่คำสอนตามหลักการไปยังประชาชนได้
ด้านนายวัลลภ ปิยมโนธรรม นักจิตวิทยา กล่าวว่า ความนิยมตุ๊กตาลูกเทพสะท้อนถึงการชดเชยในสิ่งที่ขาดของคน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนได้และเป็นความนิยมเพียงชั่วคราว
ขณะที่ นายวรเนติ หล้าพระบาง รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยสมายล์ แอร์เวย์ กล่าวถึงกรณีหากผู้โดยสารคนอื่น ๆ ไม่สบายที่จะนั่งใกล้ตุ๊กตาลุกเทพบนเครื่องบินว่า เป็นสิทธิ์ของผู้โดยสายโดยทั่ว ๆ ไป ที่จะสามารถย้ายที่นั่ง คืนตั๋ว หรือปฏิเสธการเดินทางได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อสรุปการหารือระหว่าง กพท.และสายการบินต่างๆ มีทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่
1.หากผู้โดยสารจะนำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่อง ต้องนำตุ๊กตาไปผ่านเครื่องเอ็กซเรย์เพราะถือว่าเป็นสัมภาระ และไม่อนุญาตให้ถือผ่านเครื่องตรวจอาวุธซึ่งเป็นช่องทางเฉพาะผู้โดยสารได้ ทั้งนี้ ถ้าปฏิเสธการตรวจทางสายการบินจะปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง
2.ถ้าผู้โดยสารซื้อตั๋วเครื่องบินใบเดียว ขณะเครื่องขึ้นหรือลงต้องเก็บตุ๊กตาไว้ในที่เก็บเหนือศีรษะหรือใต้ที่นั่งเท่านั้น ไม่สามารถอุ้มไว้ที่เบาะได้เพราะถือเป็นสัมภาระตามระเบียบ
และ 3.ถ้าต้องการให้ตุ๊กตาอยู่บนที่นั่งขณะอยู่บนเครื่องบิน ผู้โดยสารต้องซื้อตั๋วเครื่องบินสองใบ และออกบัตรโดยสารโดยใช้ชื่อผู้โดยสารเพียงใบเดียว เช่นเดียวกับซื้อตั๋วเพิ่มเพื่อนำกีต้าร์หรือของมีค่าชิ้นใหญ่ขึ้นเครื่องและวางบนที่นั่ง และห้ามใช้ชื่อตุ๊กตาออกบัตรโดยเด็ดขาด
ส่วนการจัดระเบียบที่นั่งบนเครื่องหรือโซนนิง เป็นเรื่องที่สายการบินต้องจัดการเองว่าจะออกกฎระเบียบอย่างไร ซึ่งทั้งหมดเป็นกฎระเบียบที่มีอยู่แล้วเกี่ยวกับสัมภาระ แต่สำนักงานการบินพลเรือนนำมาเน้นย้ำเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง