ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ดีเอสไอ คาด อดีต รมว.สาธารณสุข เอี่ยวยาซูโดอีเฟดรีน หาย

อาชญากรรม
31 มี.ค. 55
16:14
19
Logo Thai PBS
ดีเอสไอ คาด อดีต รมว.สาธารณสุข เอี่ยวยาซูโดอีเฟดรีน หาย

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เสนอให้กระทรวงสาธารณสุข ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยในภาพรวม ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำยาซูโดอีเฟดรีนออกจากโรงพยาบาล แทนการสอบสวนแบบแยกส่วน เพื่อเชื่อมโยงให้เห็นภาพใหญ่ของผู้กระทำผิดทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องรอผลสอบสวนคดีอาญาจากดีเอสไอ

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบหลักฐาน กรณีอักษรย่อ คนสนิทข้าราชการระดับสูง และตัวเลขการแบ่งเปอร์เซ็นต์ยาซูโดอีเฟดรีน ในการเสวนาหัวข้อ "ชำแหละยาซูโดล่องหน ใครต้องรับผิดชอบ" ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับอดีต รมว.สาธารณสุข เบื้องต้น ตั้งสมมุติฐานได้ 2 กรณี สมมุติฐานแรก อาจเกี่ยวข้องกับการแบ่งปันและส่งมอบยา หรือ ช้อปปิ้งยา เพื่อนำไปผลิตยาเสพติด ซึ่งเป็นคดีอาญาที่ ดีเอสไอ ต้องดำเนินการตรวจสอบโดยตรง สมมุติฐานที่สอง อาจเป็นการแบ่งปันผลประโยชน์ในรูปแบบของค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทยา ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องสอบวินัยร้ายแรง และดำเนินดคีแพ่ง จะต้องตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง ก่อนแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง

นายธาริต ยังบอกอีกว่า ขณะนี้ตัวเลขของยาซูโดอีเฟดรีน ที่หายออกไปจากระบบของโรงพยาบาลยังไม่นิ่ง ยังต้องมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง แต่เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการรวบรวมยาออกจากระบบ เพื่อนำไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้า โดยร่วมกันทำเป็นขบวนการ นอกจากนี้ยังเสนอให้ กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการสอบวินัย ควบคู่ไปพร้อมกับการสอบสวนคดีอาญาของดีเอสไอ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ดีเอสสอบสวนเสร็จ เพราะต้องใช้เวลายาวนาน ขณะเดียวกันควรแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยในภาพรวม แทนการสอบสวนแบบแยกส่วน เพราะอาจนำไปสู่การตัดตอน และไม่สามารถเชื่อมโยงไปถึงผู้กระทำผิดทั้งหมดได้

ขณะที่ เภสัชกรประพนธ์ อางตระกูล ผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) บอกว่าในวันที่ 2 เมษายนนี้ จะเสนอให้ รมว.สาธารณสุข ลงนามประกาศยกระดับยาซูโดอีเฟดรีน เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และยกเลิกการผลิต รวมถึงการนำเข้ายาชนิดนี้ ส่วนยาที่ค้างอยู่ในสต็อกของโรงพยาบาล และบริษัทยาที่ผลิตอีกกว่า 80 ล้านเม็ด จะอนุญาตให้ใช้ โดยมีการควบคุมอย่างรัดกุมอีก 1 ปี และหากใช้ไม่หมด ก็จะทำลายทิ้งทั้งหมด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง