พิษการพนันชนวนเหตุคดีฆาตกรรมอำพรางนักศึกษา ม.เกษตรฯ
การเจอหน้ากันระหว่างครอบครัวพลพละ และครอบครัวเลี้ยงใจ วันนี้ไม่เหมือนกับครั้งแรก ของการเปิดภาคเรียนของนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ ลูกชายทั้ง 2 ครอบครัวซึ่งเป็นเพื่อนกันตั้วแต่มัธยมปลายและสามารถสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ด้วยกัน
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 5 เม.ย. เกิดเหตุเพลิงไหม้หอพักนักศึกษาแห่งหนึ่งภายในซอยงามวงศ์วาน 52 คดีดังกล่าวเกือบจะกลายเป็นเพียงคดีเพลิงไหม้ธรรมดา แต่ผลจากการชันสูตรทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด กลับพบว่านายทศพร เลี้ยงใจ ผู้เสียชีวิตที่ถูกไฟคลอกทั่วทั้งร่างกายนั้น มีบาดแผลถูกทำร้ายที่ศีรษะจนกะโหลกแตก และมีบาดแผลถูกแทงทั้งที่ลำคอและตัวหลายแห่ง ประกอบกับห้องพักถูกล็อกจากด้านนอกด้วย
สอดคล้องกับการสอบถามเพื่อนข้างห้องหลายคนต่างระบุตรงกันว่า คืนเกิดเหตุมีเสียงทะเลาะวิวาทออกมาจากห้องพักของผู้ตาย ซึ่งในคืนนั้นมีคนมาหาผู้ตาย 2 คน คือ นายนัท และนายประสิทธิ์ พลพละ
เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงก็พบนายประสิทธิ์ สะพายเป้ ใส่โน๊ตบุ๊คของผู้ตายเดินออกไปเมื่อเวลา 05.00 น. ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุเพลิงไหม้
จนกระทั่งเช้าวันที่ 9 เม.ย. ตำรวจได้เชิญตัวนายประสิทธิ์ มาสอบปากคำ จนเขารับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆาตกรรมอำพรางเพื่อนสนิทของตัวเอง เพราะไม่พอใจที่ถูกต่อว่าอย่างรุนแรง จากสาเหตุเพราะไม่ยอมแทงพนันฟุตบอลออนไลน์ให้
นายประสิทธิ์ พลพละ กล่าวว่า ด้วยความกลัวเขาจึงอำพรางศพด้วยการเผาอำพรางคดี และนำคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของผู้ตายไปด้วย และนำไปขายที่ห้างพันธุ์ทิพย์ในราคา 5,500 บาท ส่วนกุญแจห้องอ้างว่าโยนทิ้งที่พงหญ้าใกล้หอพัก
สุดท้ายอดีตนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ต้องมาจนมุมด้วยหลักฐานการแทงพนันบอลที่พบในเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค และกล้องวงจรปิด และคำรับสารภาพของตัวเอง เขาต้องจบชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยลงเพียงเพราะอารมณ์เพียงชั่ววูบ ทั้งที่ในปีนี้เขาตั้งใจจะนำคะแนนสอบแอดมิดชั่น ไปยื่นสมัครเรียนใหม่อีกครั้งที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก