เกิดเหตุคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ 2 ราย โดยมุ่งเอาสร้อยคอทองคำของผู้เสียชีวิต

เกิดเหตุฆ่าชิงทรัพย์ 2 รายซ้อน โดยรายแรกเป็นเจ้าของร้านข้าวมันไก่ ย่านวงศ์สว่าง ที่ถูกคนร้ายอาวุธปืนจี้ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท แต่ผู้ตายขัดขืนจึงถูกยิงเสียชีวิต ส่วนอีกรายเป็นเจ้าของร้านตัดเสื้อสูทใกล้กับแยกเจริญผลถูกคนร้ายสองคนรุมซ้อมเพื่อเอาสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ก่อนที่จะจับเอาศีรษะผู้ตายโขกกับกระถางต้นไม้หน้าบ้านตนเอง จนเสียชีวิต

เมื่อช่วง 01.00 น.เกิดเหตุคนร้ายรุมทำซ้อมนายศิริพงษ์ จิระพงศ์สกุล อายุ 68 ปี เจ้าของร้านเสื้อสูท เงาะ เทเลอร์ จนเสียชีวิต บริเวณหน้าร้านของตัวเอง ซึ่งอยู่ใกล้กับแยกเจริญผล เขตปทุมวัน โดยจากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ พบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้าน แต่มีคนร้ายสองคนขี่รถประกบตามมา ก่อนจะยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าบังคับให้ผู้ตายถอดสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทพร้อมพระเลี่ยมทองมาให้ แต่ผู้ตายไม่ยอมคนร้ายจึงช่วยกันรุมซ้อมและจับศีรษะผู้ตายโขกกับกระถางต้นไม้ที่อยู่หน้าบ้านจนเสียชีวิตก่อนชิงทรัพย์สินไป

ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น.เมื่อคืนที่ผ่านมาเช่นกัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ บริเวณลานจอดรถของวัดมัชฌันติการาม หรือวัดน้อย ภายในซอยวงศ์สว่าง 11 เขตบางซื่อพบศพนายอุดมพร ไพรงาม อายุ 35 ปี เจ้าของร้านเด่นข้าวมันไก่หน้าปากซอยวงศ์สว่าง11 ถูกยิงด้วยปืนที่กกหูด้านขวา 1 นัด และพบว่า สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาทมูลค่ากว่า 200,000 บาทของผู้ตายหายไป

ลูกจ้างร้านข้าวมันไก่ได้ให้การกับตำรวจว่า ผู้ตายเปิดร้านข้าวมันไก่ในย่านนี้ได้เพียง 2 เดือน และ ทุกวันจะเดินไปเอารถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ซึ่งจอดไว้ในลานจอดของวัดเพื่อขับไปปิดร้านและเดินทางกลับบ้านพักที่ย่านคลอง 3 จังหวัดปทุมธานี แต่ก่อนเกิดเหตุผู้ตายไปนานผิดสังเกตจึงปั่นจักรยานไปดูจนพบว่านอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถ

เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะซุ่มอยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในซอยเปลี่ยวและมืด ก่อนจะลงมือใช้อาวุธปืนจี้ชิงสร้อยคอทองคำ แต่เกิดการขัดขืนจึงถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต หลังจากนี้ตำรวจจะนำกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณทางเข้าออกของวัดมัชฌันติการามมาตรวจสอบ เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป