ชาวบ้านใน จ.น่าน ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ จากเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือน

ชาวบ้านในจังหวัดน่านที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนพัดถล่มเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐทำให้บางส่วนต้องกู้เงินนอกระบบมาซ่อมแซมบ้าน ขณะที่ยังคงมีพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนในหลายจังหวัดทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคกลาง

บ้านเรือนจำนวนมากในพื้นที่บ้านหนองตะลุง หมู่ที่ 3 ตำบลพยุห์ อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ ถูกลมพายุพัดปลิวเสียหายกว่า 60 หลังคาเรือน หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ ซึ่งแรงลมพายุที่มีลักษณะหมุนอย่างรุนแรง ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับศาลาริมทางและรถจักรยานยนต์ เสียหาย 1 คัน

ส่วนที่จังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในจังหวัด ออกแจกจ่ายสิ่งของจำเป็นในการซ่อมแซมบ้าน เช่น ตะปู สังกะสี และ กระเบื้องมุงหลังคา ให้กับบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนเป็นการเร่งด่วน ในพื้นที่บ้านเหล่ากุด หมู่ 6 , บ้านหัวหนองแวง หมู่ 14 , บ้านหนองไร่ หมู่ 11, ของอำเภอศรีสมเด็จ และบางส่วนของอำเภอจังหาร และ อำเภอพนมไพร ซึ่งรวมแล้วมีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 115 หลังคาเรือน

ส่วนที่บ้านคลองน้อยอำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกพายุลูกเห็บก้อนขนาดใหญ่เท่าไข่ไก่พัดถล่มบ้านเรือน โดยแรงลมได้พัดต้นไม้ขนาดใหญ่ และ เสาไฟฟ้า ล้มหักโค่น ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับ ขณะที่บ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย ทั้งบริเวณหลังคาบ้านและฝาผนัง

ส่วนบ้านพักหมู่บ้านท่าน้าว หมู่ที่1 และ 2 ตำบลท่าน้าว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อน ถึง 3 ครั้ง ในช่วงปลายเดือนมีนาคม และ ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากข้อมูลพบว่า มีผู้ประสบภัยในพื้นที่หมู่ที่ 1 ได้รับเงินช่วยเหลือเพียง 4 ราย จากทั้งหมด 119 ราย ขณะที่บ้านเรือนหมู่ที่ 2 กว่า 50 หลัง ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ

จากการสอบถามนายสุจิต สถาอุ่น กำนันตำบลท่าน้าว บอกว่า ตามหลักเกณท์การช่วยเหลือ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. จังหวัดน่าน ให้ชาวบ้านออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมไปก่อน แล้วค่อยทำเรื่องขอเบิกภายหลัง ขณะที่ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าน้าว ซึ่งเป็นผู้รวบรวมเอกสารให้กับ ปภ.จังหวัดน่าน กลับระบุว่า เป็นเพราะเอกสารไม่ครบ โดยขาดหลักฐานภาพถ่ายบ้านที่ได้รับความเสียหาย