ข้าวยืนต้นตายที่ จ.นครสวรรค์ หลังประสบปัญหาภัยแล้ง

หลายจังหวัดในภาคเหนือยังคงประสบปัญหาภัยแล้ง ล่าสุด น้ำในแม่น้ำโขงที่แห้ง เริ่มส่งผลกระทบกับการเดินเรือ ส่วนที่จังหวัดนครสวรรค์ หลายครอบครัวต้องไถนาข้าวที่ปลูกไว้ทิ้ง หลังขาดน้ำจนแห้งตาย

ชาวนาหลายคนในเขตอำเภอไพศาลี และอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ตัดสินใจไถกลบนาข้าวที่ปลูกไว้ทิ้ง เนื่องจากขณะนี้ขาดน้ำทำให้ยืนต้นตาย ชาวบ้านบอกว่าการไถครั้งนี้เพื่อรอฝนสำหรับ การทำนาปีเท่านั้น เนื่องจากในพื้นที่ ไม่มีแหล่งน้ำให้ทำนา เพราะอยู่นอกเขตชลประทาน

ล่าสุดจังหวัดนครสวรรค์ประกาศให้พื้นที่ 5 อำเภอ เป็นเขตประสบภัยพิบัติแล้งแล้ว คืออำเภอเมือง, อำเภอหนองบัว, อำเภอตากฟ้า, อำเภอพยุหะคีรี และอำเภอลาดยาว หลังมีนาข้าวเสียหายแล้ว 9,400 ไร่

ที่จังหวัดเชียงราย ขณะนี้แม่น้ำโขง ด้านอำเภอเชียงแสน ลดลงจนสามารถมองเห็นสันทรายกลางแม่น้ำโขงอย่างชัดเจน โดยเช้าวันนี้ (20 เม.ย.) สถานีอุทกวิทยาอำเภอเชียงแสน ตรวจวัดแม่น้ำโขงพบว่าลดลงอีก 2 เซนติเมตร เหลือ 1.46 เมตร และได้ส่งผลกระทบในการเดินเรือสินค้า

ส่วนที่จังหวัดพิจิตร บริษัทผู้รับจ้างขุดลอกแหล่งน้ำ เพื่อทำแก้มลิงตามนโยบายป้องกันปัญหาอุทกภัยของรัฐบาล ระดมรถแบ็คโฮจำนวนมาก เร่งขุดลอกหนองท่าทอง หมู่ที่ 8 ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่กว่าร้อยไร่ เพื่อทำเป็นแก้มลิง หลังจากที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณงวดแรกกว่า 100 ล้านบาท