ยูเอ็นวอนทุกฝ่ายในซีเรียยุติความรุนแรง
การสังหารหมู่ในครั้งนี้ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีความคิดว่าอาจจะใช้กำลังทางทหารเข้าแทรกแซงกิจการในซีเรีย แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นคงเป็นไปได้ยาก เพราะจีน และรัสเซียซึ่งเป็นชาติสมาชิกถาวรระบุชัดเจนว่าต้องการให้ใช้วิธีทางการทูตแก้ปัญหาในซีเรีย
นายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในซีเรียยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ พร้อมย้ำว่ายูเอ็นไม่ได้ส่งคณะผู้สังเกตุการณ์ไปซีเรีย เพื่อเป็นพยานในเหตุการณ์สังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งการสังหารหมู่พลเรือนในเมืองฮูล่าเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจทำให้ซีเรียตกเข้าสู่สภาวะสงครามกลางเมือง สิ่งที่นานาชาติต้องการเห็นคือ การแก้ปัญหาด้วยวิถีทางการเมือง ที่จะช่วยปกป้องชีวิต และผลประโยชน์ของชาวซีเรีย
การสังหารหมู่ประชาชนในเมืองฮูล่าของซีเรียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 108 คน ส่งผลให้สหรัฐฯ และชาติตะวันตก ขับนักการทูตซีเรียออกนอกประเทศ เพื่อประท้วงรัฐบาลซีเรีย ซึ่งประเทศที่ขับนักการทูตซีเรียรายล่าสุด คือรัฐบาลออสเตรเลียที่ให้เวลานายจอว์ดัท อาลี อุปทูตซีเรีย ออกนอกประเทศภายในเวลา 72 ชั่วโมง ส่วนประเทศที่ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้แก่ประเทศอังกฤษ, แคนาดา,ฝรั่งเศส และเยอรมนี เป็นต้น
ความรุนแรงระลอกล่าสุดในซีเรีย ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซีมีแนวคิดที่จะใช้กำลังทางทหารเข้าแทรกแซงซีเรีย แต่จีน และรัสเซียซึ่งเป็นชาติสมาชิกถาวรมีทีท่าว่าไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว และอาจใช้สิทธิ์วีโต้เพื่อยับยั้งเรื่องนี้
ล่าสุด โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงว่าจีนไม่ต้องการขัดขวางการแก้ปัญหาในซีเรีย แต่จีนต้องการให้ใช้วิธีทางการเมืองเป็นทางออกของเรื่องนี้ เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ในซีเรียยังไม่ถึงขั้นเข้าสู่ภาวะสงคราม
ก่อนหน้านี้ จีน และรัสเซียซึ่งเป็นชาติสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซีเคยใช้สิทธิ์วีโต้เพื่อยับยั้งมติของยูเอ็นเอสซีเรื่องซีเรียมาแล้วถึง 2 ครั้ง