ทหารโต้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการยิง 6 ศพในวัดปทุมฯ
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่ากรณีประธานกลุ่ม นปช. และมารดาของ น.ส.กมลเกด อักฮาด ที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามไป ยื่นคำร้องศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อหาทางฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้อง และสั่งสลายการชุมนุมในปี 2553 เป็นเรื่องของผู้สูญเสีย ในส่วนของกองทัพ มีทนายความและเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมาย ดูแลเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่ากองทัพไม่ได้ทำร้ายประชาชน
คดีการเสียชีวิต 6 ศพในวัดปทุมวนาราม ผ่านมากว่า 2 ปี ขณะนี้เรื่องได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้นัดไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตของทั้ง 6 คนเป็นครั้งแรก โดยมี พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ในฐานะพนักงานสอบสวนเบิกความปากแรก ระบุว่า ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ที่แกนนำ นปช.ประกาศยุติการชุมนม และประกาศให้ผู้ร่วมชุมนุมที่เวทีราชประสงค์กลับบ้าน โดยให้ไปรวมตัวกันที่วัดปทุมฯ ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่รัฐลาดตระเวนอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าพารากอน และบนรางรถไฟสยาม เพื่อปฏิบัติการระงับเหตุเพลิงไหม้ โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่าย
ระหว่างนั้นนายสุวรรณ ศรีรักษา, นายอัฐชัย ชุมจันทร์, นายรพ สุขสถิต, นายมงคล เข็มทอง, นายอัครเดช ขันแก้ว และ น.ส.กมลเกด อักฮาด ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมฯ ซึ่งการเบิกความพนักงานสอบสวน ระบุผลชันสูตร 5 คนยกเว้นนายอัฐชัย ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .223 หัวเขียว ซึ่งเป็นกระสุนที่ใช้กับปืนเอ็ม 16 และปืนทาโวร์ ที่ใช้ในราชการทหาร วิถียิงจากบนลงล่าง โดยศาลนัดไต่สวนคดีนี้ครั้งต่อไปในวันที่ 9 สิงหาคม และนัดต่อเนื่องไปทุกวันพฤหัสบดีจนครบ 32 นัดไปจนถึงเดือน เมษายน 2556
สำหรับการไต่สวนคำร้องคดีนี้เป็นการไต่สวนชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ส่งเรื่องกลับมาให้พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมระบุความเห็นว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต 6 ศพ ในวัดปทุมฯ โดยพนักงานสอบสวนได้มีการพิจารณาสอบสวนเพิ่มเติม และส่งเรื่องให้ศาลไต่สวนคำร้องชันสูตรเรื่องนี้ และหากศาลพิจารณาคำร้องแล้วเสร็จ ก็จะส่งเรื่องกลับมาให้พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลอีกครั้ง จากนั้น พนักงานสอบสวนจึงจะนำไปประกอบสำนวนคดีแล้วจึงจะส่งสำนวนคดี ต่ออัยการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง