สธ.กัมพูชา ยันโรค มือ เท้า ปากที่ระบาด ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่สื่อประโคมข่าว
ชาวกัมพูชาจำนวนมากยังเฝ้าดูอาการของบุตรหลานของตน เนื่องจากเกรงว่าจะติดโรคลึกลับ ที่เริ่มระบาดมาตั้งแต่เดือนเมษายน และทำให้มีเด็กเสียชีวิตแล้ว 64 คน และมีคนไข้ติดเชื้อโรคนี้อีก 66 คน ขณะที่องค์การอนามัยโลกแจ้งตัวเลขผู้ป่วยที่ 59 คน และเสียชีวิต 52 คน
ขณะนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุของโรคที่แน่ชัด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา และองค์การอนามัยโลก กำลังเร่งสอบสวนสาเหตุอยู่ ในเบื้องต้นเชื่อว่าอาจจะเกิดจากเชื้อ เอนเทอโรไวรัส 71 หรือ อีวี-71 ที่ทำให้เป็นโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งพบได้บ่อยในเด็กเล็ก และทารก ทำให้ผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อทางระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจถูกทำลายอย่างรุนแรง อาการไข้สูง คลื่นไส้และอาเจียน โดยเด็กที่เสียชีวิตไปพบว่าปอดอักเสบ และถูกทำลาย
อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ของโรงพยาบาลเด็กกันธา โบพา กล่าวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดไม่ได้เลวร้าย อย่างที่สื่อมวลชนพากันเสนอภาพข่าว พ่อแม่ชาวกัมพูชาหลายพันคนพาลูกๆ ที่ป่วยเข้ามารักษาในโรงพยาบาลในกรุงพนมเปญ ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่ามีเด็กป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน
ด้านนักชีววิทยาส่งรายงานด้านพิษวิทยาไปศึกษาหาสาเหตุที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งกว่าจะทราบผลต้องใช้เวลานานหลายเดือน ขณะที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าเป็นครั้งแรกที่ปรากฎเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ในกัมพูชา ซึ่งจำต้องมีมาตรการอันเหมาะสมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด