การดำเนินการของคณะทำงานร่วมไทย -กัมพูชา หรือเจดับบิวจี ยังต้องเดินหน้าต่อไป หลังการปรับกำลังทหารในพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ซึ่งเป็นเพียงขั้นแรกที่ไทยและกัมพูชาทำพร้อมกัน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงการดำเนินการในขั้นคณะกรรมการ เจดับบลิวจี (JWG) ว่าจะต้องดำเนินการต่อไป
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร เสนาธิการทหาร ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเจดับบิวจี กำลังเตรียมการเพื่อดำเนินการต่อจากนี้ โดยเฉพาะมติจากที่ประชุม เจดับบิวจี ที่ผ่านมา จะต้องรีบเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งยอมรับว่า การประชุมเจดับบิวจีในครั้งหน้า ยังไม่ชัดเจนในประเด็นที่หารือกันเพิ่มเติม แต่ต้องเร่งให้เร็วขึ้น เพราะถ้าช้าจะไม่ส่งผลดีกับทั้งสองฝ่าย เนื่องจากขณะนี้ กำลังของทั้งสองฝ่ายก้ำกึ่ง โดยทางกัมพูชาได้วางกำลังไว้มากกว่าไทยตามที่ศาลโลกกำหนดไว้
ส่วนกรณีที่กัมพูชาจะเสนอแผนพัฒนาพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลก และเกรงว่า จะมีการล้ำเข้าในดินแดนไทยนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่าทราบถึงปัญหาที่จะตามมา เพราะแผนที่ทั้งสองฝ่ายไม่เหมือนกัน แต่ขณะนี้มุ่งไปที่เรื่องเขาพระวิหารให้จบก่อน
ในส่วนที่ชาวกัมพูชาบุกรุกตั้งชุมชนในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ทั้งที่ตามเอ็มโอยู 43 มีการลงนามในข้อตกลงชัดเจนว่า ห้ามไม่ให้ใครมาตั้งถิ่นฐาน ซึ่งคงจะต้องเจรจากันต่อไป ยืนยันไม่ได้ทิ้งปัญหา แต่ต้องค่อย ๆ ดำเนินการ และดูจังหวะเวลา รวมถึงทีมงานที่จะต้องหาเทคนิคในการทำให้ถึง เป้าหมายซึ่งต้องใช้ระยะเวลา