บริษัทเทคโนโลยีจากประเทศจีน ได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่คล้ายมนุษย์ในขนาดเท่าคนจริง โดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยทำงานในคลังสินค้า
การพัฒนาหุ่นยนต์มีจุดประสงค์ในการนำมาช่วยงานในคลังสินค้า เช่น การขนย้ายสิ่งของและการจัดเรียงสินค้า ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจจากทั้งวงการอุตสาหกรรมและผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ในการนำมาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
บริษัทผู้พัฒนาหุ่นยนต์มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตหุ่นยนต์อัตโนมัติสำหรับงานบริการ โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาหุ่นยนต์ส่งอาหารในร้านอาหารและโรงแรม ก่อนจะขยายไปสู่การพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานหนักในคลังสินค้าได้ หุ่นยนต์เหล่านี้ใช้ระบบ AI ขั้นสูงที่สามารถวิเคราะห์สภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์นี้ คือ ความสามารถในการเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น การเดิน การยกสิ่งของ และการทำท่าทางต่าง ๆ ที่เลียนแบบมนุษย์ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งพัฒนาจากการวิจัยด้านวิศวกรรมหุ่นยนต์และการออกแบบกลไกอย่างละเอียด หุ่นยนต์ยังสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย ด้วยเซนเซอร์ที่ช่วยตรวจจับการเคลื่อนไหวและป้องกันการชนหรือเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ทำงาน
หุ่นยนต์ยังสามารถทำงานต่อเนื่องได้เป็นเวลานาน โดยไม่ต้องพักหรือชาร์จพลังงานบ่อย ๆ ทำให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการความต่อเนื่อง เช่น การจัดการคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่มีสินค้าหมุนเวียนสูง โดยเฉพาะในยุคที่แรงงานคนมีความต้องการสูงแต่ขาดแคลนในบางพื้นที่
ในแง่การประยุกต์ใช้ หุ่นยนต์เหล่านี้อาจช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัท และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการระบบโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการทำงานในพื้นที่อันตราย เช่น การขนย้ายสินค้าในพื้นที่สูงหรือการจัดเก็บของในคลังสินค้าขนาดใหญ่
โดยรวมแล้ว หุ่นยนต์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ที่พัฒนาด้วยระบบ AI นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในแวดวงเทคโนโลยีและหุ่นยนต์ ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานในอนาคตได้อย่างยั่งยืน
เรียบเรียงโดย ขนิษฐา จันทร์ทร
ที่มาข้อมูล: newatlas, pudurobotics
ที่มาภาพ: pudurobotics, ภาพ 1
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech