กว่า 24 ปี กับเส้นทางของ “THAITANIUM” เจ้าพ่อแห่งวงการเพลง HIP-HOP ที่โดดเด่นทั้งแนวเพลง คาแรกเตอร์ประจำตัวของแต่ละคน รวมไปถึง Signature ท่าประจำวงอย่างการทำ Hand Signs รูปตัว T ซึ่งเป็นการแสดงสัญลักษณ์ความเป็น THAITANIUM อย่างชัดเจนที่สุด
บทความในตอนนี้จะชวนทุกคนมาย้อนรอยเส้นทางของ HIP-HOP ตัวพ่อวงนี้กันว่า พวกเขาผ่านอะไรมาบ้าง และจุดเริ่มต้นเส้นทางนั้นเป็นมาอย่างไร ถึงได้ก้าวขึ้นไปเป็นศิลปินที่ไม่เหมือนใคร และยังนำเสนอความเป็นไทยให้โลกได้รับรู้ ผ่านการสื่อสารในรูปแบบการ RAP อีกทั้งยังยกระดับเพลงแนว HIP-HOP ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน
เส้นทางกว่าจะเป็น THAITANIUM
THAITANIUM (ไทยเทเนี่ยม) กลุ่มศิลปิน Hip-Hop ที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 3 คน คือ ขัน-ขันเงิน เนื้อนวล, เดย์-จำรัส ทัศนละวาด และ เวย์-ปริญญา อินทชัย ซึ่งหากย้อนกลับไปในจุดเริ่มต้นก่อนที่จะเกิดวง THAITANIUM ขึ้นมานั้น เส้นทางของแต่ละคนมีทั้งความเหมือนและแตกต่างกัน แต่น่าแปลกที่กลับมาเชื่อมโยงกันได้อย่างน่าประหลาดใจ
เริ่มต้นจากสมาชิกคนแรก ขัน-ขันเงิน เนื้อนวล ก่อนที่จะเป็นหนึ่งในสมาชิกวง THAITANIUM นั้น เขาได้เล่าเรื่องราวชีวิตเอาไว้ว่า เมื่อสมัยยังเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่น ต้องย้ายไปศึกษาที่ต่างประเทศ และการใช้ชีวิตในต่างแดนนั้นนับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในช่วงยุคนั้นยังคงมีการเหยียดสีผิว เหยียดเชื้อชาติกันในต่างแดนอยู่มาก และเพราะตัวเขานั้นเป็นคนเอเชียที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศจึงทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้
เขาต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ยากลำบากในวัยเด็ก นั่นคือ การโดนเหยียดสีผิว โดนเหยียดว่าเป็นคนเอเชีย ทำให้มักจะถูกขับไล่ เช่น การขว้างกระป๋องใส่ ขับไล่ให้ออกไป และจากเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เขาต้องปลีกตัวไปอยู่กับกลุ่มคนผิวสี ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยในดินแดนต่างประเทศ และจากการไปรวมกลุ่มกับคนผิวสีที่มีพื้นฐานของการสร้างความบันเทิงด้วยเสียงเพลงนี้เอง ทำให้ SOUNDTRACK ในชีวิตที่มีในตอนนั้นคือเพลง HIP-HOP และนั่นทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังความชื่นชอบในเสียงเพลง HIP-HOP ตั้งแต่นั้นมา
ต่อกันที่สมาชิกคนถัดไป นั่นคือ เดย์-จำรัส ทัศนละวาด ซึ่งเรื่องที่น่าสนใจของเขานั่นคือ การที่เป็นผู้ที่เติบโตมากับแนวเพลงเพื่อชีวิต แต่เมื่อต้องถูกส่งตัวไปเรียนที่ต่างประเทศ ทำให้เขาได้มีโอกาสพบเจอกับเพื่อนซี้อย่าง ขัน THAITANIUM และเมื่อได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ทำให้เขาได้เปิดโลกดนตรีแนว HIP-HOP ซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เขาเองไม่เคยรู้จักเพลงแนวนี้มาก่อน
และเมื่อได้รู้อีกว่าเนื้อหาในพลง HIP-HOP ส่วนใหญ่จะมีการพูดถึงเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรมในสังคม การตีแผ่เรื่องราวอย่างตรงไปตรงมา ผ่านการสื่อสารในรูปแบบของการ RAP ทำให้จากเดิมที่มีความชื่นชอบในแนวเพลงเพื่อชีวิตอยู่แล้ว จึงรู้สึกอยากเรียนรู้แนวเพลง HIP-HOP และเป็นส่วนหนึ่งในเพลงสไตล์นี้มากยิ่งขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเขาได้มีโอกาสมาทำงานร่วมกันในนาม THAITANIUM
ต่อมากับสมาชิกคนที่ 3 อย่าง เวย์-ปริญญา อินทชัย เส้นทางของ เวย์ THAITANIUM แตกต่างจากทั้ง 2 คนแรกตรงที่พื้นฐานนั้นเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ และมีสไตล์แบบวัยรุ่น HIP-HOP เป็นทุนเดิม แต่แล้วเขาก็ต้องกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย ตอนนั้นด้วยความที่แนวเพลง HIP-HOP ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมาก แฟชั่นการแต่งตัวแบบนั้นจึงทำให้เขาถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด
นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของครอบครัว ที่ช่วงแรกนั้นยังไม่เห็นด้วยกับการที่เขาเติบโตจากเมืองนอกแล้วต้องมาเป็น RAPPER ในเมืองไทย แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง จึงพกความมุ่งมั่นนั้นผลักดันผลงานต่าง ๆ ให้ออกมาจนเป็นที่ยอมรับ
เวลานั้นวงการเพลง HIP-HOP ในบ้านเรายังมีกลุ่มคนที่ชื่นชอบไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ฟังแบบเฉพาะกลุ่ม และมีจำนวนน้อย ทำให้เขามีโอกาสเจอกับ ขัน THAITANIUM ซึ่งกลับมาสร้างผลงานอยู่ที่ไทย และเมื่อทั้ง 2 ได้เจอกันบวกกับมีความชื่นชอบในแนวเพลงเหมือนกัน มี PASSION ในด้านเพลง HIP-HOP เหมือนกัน และยังมีไลฟ์สไตล์คล้าย ๆ พอได้รู้จักและสนิทกัน ทำให้พวกเขามีโอกาสมาร่วมงานในเวลาต่อมา
หากย้อนกลับไปก่อนที่ทั้ง 3 คน จะมีผลงานในนาม THAITANIUM เดิมทีนั้นตัวของ ขัน และ เวย์ ต่างเคยมีผลงานมาก่อน ในอดีต ขัน THAITANIUM มีผลงานในนาม “ขันที” ซึ่งมีเพลงดังอย่าง “ชูวับ ชูบีดู” ที่ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงยุคนั้น
ส่วนของ เวย์ THAITANIUM เคยมีผลงานในโปรเจกต์ Teen 8 Grade A มาก่อน รวมไปถึงผลงานด้านการแสดงต่าง ๆ แต่ทั้ง 2 คนนี้ กลับบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นั่นยังไม่ใช่ทางของตัวเอง เพราะทั้งคู่นั้นมี PASSION ในด้านเพลง HIP-HOP และอยากสร้างผลงานเกี่ยวกับเพลงแนวนี้ นี่จึงเป็นอีกสิ่งสำคัญที่เชื่อมทั้งคู่เข้าหากันได้
นอกจากนี้ก่อนจะมีผลงานในนาม THAITANIUM ยังเคยมีผลงานในนาม AA CREW ที่ถือว่าเป็นกลุ่ม HIP-HOP เต็มรูปแบบวงแรกของไทย และเป็นผลงานอัลบั้มใต้ดินชุดแรกที่ปล่อยออกมา ก่อนที่จะใช้ชื่อ THAITANIUM สร้างผลงานต่าง ๆ ออกมาใหม่ในเวลาต่อมา
จุดกำเนิด THAITANIUM
THAITANIUM ถือกำเนิดขึ้นเมื่อสมาชิกทั้ง 3 คนได้มาเจอกันในวันที่ 29 มีนาคม ซึ่งพวกเขาถือว่านี่คือวันเกิดของ THAITANIUM เพราะเป็นวันที่สมาชิกทั้ง 3 คน มาเจอกันครั้งแรกที่นิวยอร์ก และได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานกันขึ้นมา
แม้ในตอนนั้นจะยังไม่มีอะไรมาซัพพอร์ตการทำงานของพวกเขามากนัก ซึ่งพวกเขาผ่านกระบวนการทำเพลงกันเองทั้งหมด รวมไปถึงการเดินสายโปรโมทในช่องทางต่าง ๆ เพราะในช่วงที่พวกเขากำลังเริ่มทำผลงานนั้น พวกเขายังไม่มีค่ายเพลง จึงต้องเดินสายหาช่องทางในการโปรโมทเพลงตามสื่อต่าง ๆ กันเอง เป็นผู้จัดการกันเอง แม้กระทั่งหน้าปกอัลบั้ม พวกเขาก็ถ่ายกันเอง เรียกได้ว่าพวกเขาเริ่มนับ 1 ด้วยกันมาตั้งแต่ต้น
เพลงของ THAITANIUM มักพูดถึงเรื่องประสบการณ์ชีวิต รวมไปถึงมีการแฝงมุมมองในแง่บวก อีกทั้งยังให้แรงบันดาลใจ และยังมีหลายมุมมองที่ไม่ใช่แค่เป็นเพลงแร็ปที่มีแต่คำหยาบเท่านั้น ในแต่ละอัลบั้มจะมีการเติบโตของเพลงในแต่ละแบบที่แตกต่างกันไป ซึ่งเพลงที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขา นั่นคือเพลง “ทะลึ่ง” ผลงานในอัลบั้มชุด Thailand's Most Wanted ถือเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และนำพาให้ทกึนรู้จัก THAITANIUM มากขึ้น
นอกจากเพลง HIP-HOP ที่มีจังหวะสนุกสนานแล้ว พวกเขายังต่อยอดสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้เข้าถึงกลุ่มคนฟังทั่วไปสามารถฟังได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพลง HIP-HOP ที่พูดถึงเรื่องความรักอย่างเพลง "หลงเลย" หรือแม้แต่เพลงที่ให้กำลังใจอย่าง "สุดขอบฟ้า" ที่พิเศษสุด ๆ กับการมีศิลปินรับเชิญอย่าง น้าแอ๊ด คาราบาว มาร่วมร้องในเพลงนี้ด้วย
ซึ่นั่นได้พิสูจน์ว่าพวกเขาสามารถยกระดับเพลง HIP-HOP ให้เข้าถึงคนฟังได้ทุกกลุ่ม และสามารถนำเพลงแนวนี้ไปผสมผสานกับดนตรีอื่น ๆ ได้อีกมากมาย นี่จึงทำให้ THAITANIUM เป็นกลุ่มศิลปิน RAPPER ที่โด่งดังและได้รับการยอมรับจากคนทั้งประเทศ พวกเขาคือ REAL HIP-HOP ตัวจริงของเมืองไทย
ตำนาน HIP-HOP ผู้ทรงอิทธิพล
การที่ THAITANIUM มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตัวเองรัก กล้าที่จะลองผิดลองถูก และนำพาแนวเพลง HIP-HOP ที่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมในหมู่คนฟัง ให้กลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มศิลปินที่มีอิทธิพลต่อวงการเพลง HIP-HOP ในเมืองไทยเป็นอย่างมาก
คำว่า THAITANIUM เป็นคำที่แสดงความเป็นพวกเขาได้ดีที่สุด เพราะเป็นคนไทยที่ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก แต่ก็ยังคงความเป็นไทย และอีกความหมายคือการเป็นคนไทยยุคใหม่ที่แข็งแกร่งเหมือนเหล็กไทเทเนียม และไม่มีใครมาทำให้วงแตกหักได้
จากจุดเริ่มต้นที่เจอกันในต่างแดน ผ่านเวลามาอย่างยาวนานจนถึงทุกวันนี้ THAITANIUM เดินทางมาได้ไกลและสวยงาม สมกับการเป็น REAL HIP-HOP ตัวจริง และเชื่อว่า THAITANIUM คงเป็นแรงบัลดาลใจให้ RAPPER รุ่นใหม่ ๆ ได้สร้างสรรค์ผลงานเพลง HIP-HOP ให้อยู่คู่วงการเพลงในเมืองไทยได้อย่างมีคุณภาพ
รายการนักผจญเพลง Replay ได้เชิญตัวพ่อแห่งวงการเพลง HIP-HOP มาร่วมแชร์เรื่องราวการเดินทาง การสร้างผลงาน จนไปถึงวันที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งทุกคนสามารถรับชมได้ในตอนที่มีชื่อว่า “THAITANIUM THE ORIGIN” ทาง YouTube Thai PBS และ เว็บไซต์ https://www.thaipbs.or.th/program/SongHunterTV/episodes/105285
ขอบคุณภาพจาก
- Facebook : THAITANIUM
- Facebook : Rap is Now
- Facebook : Kennemusicshop
- Facebook : กูฟังเพลงเก่า
- เว็บไซต์ : True ID Music