วันนี้ (19 ก.พ.2568) ชาวนาจากหลายจังหวัด ตั้งแต่สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี รวมตัวบริเวณหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอพบนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับมาตรการแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ
ขณะนี้ชาวนาในหลายพื้นที่ภาคกลางเริ่มเกี่ยวข้าวนาปรังแล้ว แต่ราคาตกต่ำเหลือเพียงตันละ 6,000-7,000 บาท จากปีที่แล้วที่เคยขายข้าวได้ตันละ 10,000-11,000 บาท ทำให้ต้องประสบปัญหาขาดทุน
หรรษา อินทร์แช่มช้อย ชาวนา จ.สุพรรณบุรี บอกว่า วันนี้เดินทางมาทวงถามรัฐบาลว่าจะช่วยเหลือและแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำอย่างไร ขณะนี้ตนเองยังไม่ได้เก็บเกี่ยวข้าว เพราะอยากจะรอความชัดเจนในมาตรการต่าง ๆ
ก่อนหน้านี้ ตัวแทนชาวนาภาคกลางหลายจังหวัดได้ยื่นเรื่องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อแจ้งปัญหามายังรัฐบาล ยกตัวอย่างเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชาวนาในพื้นที่พระนครศรีอยุธยารวมตัวปิดถนน ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งว่าจะจัดทำมาตรการเร่งด่วน โดยให้พาณิชย์จังหวัดเปิดจุดรับซื้อข้าว แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะกำหนดราคารับซื้อเท่าใด รวมถึงจะชดเชยให้ชาวนาที่ขายข้าวไปก่อนหน้านี้หรือไม่
ประเสริฐ ศรีปัญญา ชาวนา จ.พิจิตร บอกเล่าปัญหาว่า ต้นทุนการผลิตข้าวอยู่ที่ตันละ 6,000 บาท แต่กลับขายได้ในราคาไม่ถึงต้นทุน โดยส่วนใหญ่มีปัญหาแมลงศัตรูข้าว
1 ไร่อย่างเก่งได้ 30-40 ถัง ขายได้ตันละ 5 พันกว่าบาท ชาวนาจะขาดทุนมหาศาล ชาวนาอยู่ไม่ได้แน่นอน
สำหรับพื้นที่ภาคกลางจะปลูกข้าวปีละ 2 รอบ ทั้งนาปี และนาปรัง หลังสละพื้นที่ให้กรมชลประทานปล่อยน้ำท่วมทุ่ง ป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะเริ่มเพาะปลูกข้าวในเดือน ธ.ค. และเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในช่วงเวลา 14.00 น. พรุ่งนี้ (20 ก.พ.2568) อนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ จะประชุมเพื่อแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ขณะที่คณะกรรมาธิการเกษตร สภาผู้แทนราษฎร จะประชุมในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน
อ่านข่าว : เปิดสาเหตุ "ข้าวไทย" ทำไมราคาตก