ปัญหาสินค้าจีนที่ทะลักเข้าไทยต่อเนื่อง จนเกิดเสียงเรียกร้องจากภาคเอกชน ให้กรมศุลกากรเอกซเรย์ตู้สินค้านำเข้า 100% เพื่อสกัดสินค้าจีน แต่โฆษกกรมศุลกากร มองว่าเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ก็พร้อมรับฟังข้อแนะนำ ส่วนมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้า มูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท VAT 7% รวม 2 เดือน เก็บภาษีได้กว่า 200 ล้านบาท โฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า ยังไม่สามารถที่จะทำตามข้อเสนอเอกชน ให้เอกซเรย์สินค้าทุกชิ้น 100 % ได้ เพราะอาจจะเกิดผลกระทบให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการพิธีการศุลกากร แก่ผู้ประกอบการนำเข้าได้
ขณะที่ไทยกำลังเผชิญกับสินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาดอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการไทยต่างดิ้นเพื่อหาวิธีเอาตัวรอดจาก "ทุนจีน" อีกด้านหนึ่งก็ยังคงคาดหวังพายุหมุดจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เพราะเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ได้ แม้กระทั่งในมิติของการลงทุนเอง ก็ดูเหมือนว่า "ไทย" จะไม่ได้เนื้อหอมพอที่จะดึงดูดการลงทุนเฉกเช่นเดิม สนทนากับ รศ.ดร. สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
สินค้าที่นำเข้ามาจากจีน ส่วนใหญ่จะผ่านมาทางด่านพรมแดน จ.มุกดาหาร และ จ.นครพนม มูลค่าการนำเข้าที่สูงหลายแสนล้าน แต่คำถามก็คือคนท้องถิ่นได้อะไร และในกรณีที่สินค้าที่สั่งมาจากตลาดอีคอมเมิร์ซ หากราคาชิ้นละไม่เกิน 1,500 บาท เรื่องนี้ใครเป็นผู้ตรวจสอบราคา และหากสินค้าที่นำเข้ามาสำแดงเท็จ ก็อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ของเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานที่อาจมีการเรียกเก็บส่วย