ปฏิบัติการ 5 วัน กับการค้นหากว่า 180 ชั่วโมง ในที่สุดก็พบร่างคนงานคนแรก มาถึงนาทีนี้ เราสรุปภาพรวมกันอีกครั้ง อุโมงค์นี้ ลึก 2 กิโลเมตร โดยตั้งแต่ปากอุโมงค์เข้าไป 1.6 กิโลเมตร เป็นระยะทางที่สามารถขับรถเข้าไปได้ เพราะฉะนั้น ผู้ประสบภัยอยู่ลึกเข้าไปกว่านั้นอีก สภาพอุโมงค์รถไฟ สมมุติเป็นรู ภายในรูอุโมงค์ มีดินถล่มลงมา ดังนั้น ต้องทำอุโมงค์เหล็ก กั้นเป็นอุโมงค์อีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันดินถล่มลงมาใส่คน ที่ค้นหาคนหายอยู่ข้างใน คำถามสำคัญ 3 คนนี้อยู่ตรงไหนของอุโมงค์ ? จากปากอุโมงค์ที่ถล่ม ลึกเข้าไป 3 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิต นั่งพิงล้อรถบรรทุก ซึ่งจากข้อมูลผู้สูญหายในวันแรก ระบุว่า คนที่อยู่กับรถบรรทุก คือแรงงานชาวเมียนมา เป็นรถบรรทุกที่มีความสูง 3 เมตร 50 เซนติเมตร นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเหมือง จากคนแรก ขุดเข้าไปในแนวราบ "ไม่เจอ" จึงขุดลึกลงไปข้างล่าง 1.8 เมตร และอยู่ห่างจากพิกัดคนแรก 4 เมตร จุดนี้ คาดว่าเป็นพิกัดของคนงานคนที่ 2 ซึ่งอยู่ในรถแบกโฮ แต่ยังไม่รู้ทิศทางว่า รถแบกโฮอยู่ชิดซ้าย หรือชิดขวาของอุโมงค์ (ก็ยากอีก เพราะทิศทางต้องชัด จึงจะขุดไปเจอ) และจากคนที่ 2 ลึกเข้าไปอีก 10 เมตร จึงจะเป็นพิกัดคนที่ 3 ที่เป็นหัวหน้าคนงาน
แม้ผู้ประสบภัยรายแรกที่พบจะเสียชีวิต แต่ชุดทีมค้นหาก็ยังไม่หมดหวัง เพราะตอนนี้มีการนำสุนัข K9 USAR Thailand เข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาพิกัดของผู้ประสบภัยรายที่ 2 เพื่อเร่งวางแผนการเข้าค้นหาและช่วยเหลือ ส่วนผลชันสูตรผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตรายแรกอย่างไม่เป็นทางการ พบว่าเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ 3 ถึง 5 วัน ติดตามความคืบหน้าจาก พจนีย์ ใสกระจ่าง รายงานสดจากอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ตลอดทั้งคืนเจ้าหน้าที่ยังคงพยายามหาวิธีเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงถล่ม ในจุดที่ได้ยินสัญญาณขอความช่วยเหลือ ในพิกัดพบสัญญาณชีพของผู้ประสบภัย แม้จะใกล้เพียง 1 เมตร แต่ปริมาณดินที่ทับถมและมีหินปิดกั้นเส้นทางทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก
จากประสบการณ์ของทีมกู้ภัยจีนที่เคยผ่านการการช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินถล่ม แผ่นดินไหว ทั้งในจีน ญี่ปุ่น และเนปาล มาแล้ว ทำให้จีนมีความพร้อมทั้งประสบการณ์ และเทคโนโลยีขั้นสูงนำมาช่วยเหลือแรงงานติดในอุโมงค์รถไฟถล่ม โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้อย่างเต็มที่
การค้นหาผู้สูญหาย เหตุดินถล่มในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงเกิดขึ้นมากกว่า 30 ชั่วโมงแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ต้องปรับแผนในการค้นหา ด้วยการมาร์กจุด ที่คิดว่ารถแบคโฮของคนงานติดอยู่ด้านใน ก่อนจะใช้ท่อขนาดใหญ่ดันเข้าไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำเครื่องตรวจสัญญาณชีพจรเข้าไปตรวจวัดอีกครั้ง