ทรัมป์ ตั้ง มัสก์ ร่วมกับ รามาสวามี นั่งหัวโต๊ะคุมหน่วยงานใหม่ชื่อ "Department of Government Efficiency" หรือ DOGE เป้าหมายเพื่อลดขนาดระบบราชการ ควบคุมการใช้จ่ายรัฐ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์กลุ่มผู้ปกป้องผู้บริโภค ที่มองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน
เจ.ดี.แวนซ์ วุฒิสมาชิกวัย 40 ปี ผู้เปลี่ยนตัวเองจากนักวิจารณ์ โดนัลด์ ทรัมป์ มาเป็น 1 ในผู้ปกป้อง เขาได้รับเลือกให้เป็นรองประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ ทำให้แวนซ์เป็นรองประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน
"วิกฤตในเมียนมา" ไม่ใช่เพียงความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารกับกลุ่มต่อต้านเท่านั้น แต่หลายประเทศเป็นผู้มีบทบาททั้งทางตรงและทางอ้อม การคว้าชัยชนะของ "โดนัลด์ ทรัมป์" นำไปสู่คำถามว่าสหรัฐฯ ในยุค "ทรัมป์ 2.0" จะมียุทธศาสตร์ต่อเมียนมาอย่างไร พูดคุยกับคุณสุภลักษณ์ กาญจนขุนดี สื่อมวลชนอาวุโสและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ในประเด็นนี้
บางคนบอกว่า ถ้า “อีลอน มัสค์” บวกกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” อาจกลายเป็น “Big Bang” ของโครงการด้านอวกาศ เพราะทรัมป์เป็นหนึ่งในคนที่สนใจประเด็นด้านอวกาศมาก เห็นได้จากผลงานในยุคที่เป็นรัฐบาลสมัยแรก ขณะที่ ภาพความสัมพันธ์ใกล้ชิดของทั้งคู่ ยิ่งทำให้คนคาดหวังกับนโยบายอวกาศใน “รัฐบาลทรัมป์ 2.0” เพิ่มมากขึ้น
จุดยืนของโดนัลด์ ทรัมป์ ชัดเจนมาตั้งแต่เป็นรัฐบาลสมัยแรก ระหว่างปี 2017 ถึงปี 2020 ว่า เขาจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งและอเมริกาจะต้องมาก่อน ซึ่งการกลับมาในสมัยที่ 2 หลังเอาชนะคามาลา แฮร์ริส ได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับอำนาจเต็มมือจากการที่รีพับลิกันกวาดที่นั่ง-ครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา ก็ทำให้หลายประเทศต้องรีบขยับตัว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับยุคทรัมป์ 2.0
ในบทความหนึ่งของ The New York Times ระบุว่า อนาคตของอเมริกาในอีก 4 ปี ข้างหน้า ภายในรัฐบาลของ “โดนัลด์ ทรัมป์” อาจจะเป็นสิ่งที่ทำนายไม่ถูกว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทรัมป์จะใช้อำนาจบริหารแบบเผด็จการ โดยไม่ฝั่งเสียงของพันธมิตรบนเวทีโลก รวมถึงการเผชิญหน้ากับ “จีน” ที่จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น และยังส่งผลกระทบต่อไทยด้วยเช่นกัน “เทพชัย หย่อง” พูดคุยกับ ผศ. ดร.วิบูลพงศ์ พูนประสิทธิ์ ที่ปรึกษาสมาคมอเมริกาศึกษาในประเทศไทย (ASAT)
ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะไปได้อย่างถล่มทลายทำให้หลายประเทศร่วมแสดงความยินดี ขณะที่ในสหรัฐฯ มีกลุ่มต่อต้านร่วมเคลื่อนไหวแสดงความไม่พอใจเช่นกัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายภายใต้การนำของทรัมป์ในสมัยหน้า เกิดกระแสความกังวลและการกล่าวโทษกันไปมา โดยเฉพาะในฝั่งเดโมแครต จนล่าสุดผู้นำคนปัจจุบันต้องเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเพลา ๆ ลงบ้าง
กรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งแบบไม่เป็นทางการ หลายประเทศทยอยร่วมแสดงความยินดี ล่าสุด วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมาแสดงความยินดีกับทรัมป์ที่ชนะการเลือกตั้ง พร้อมระบุว่า ทรัมป์เป็นคนกล้าหาญ และประทับใจกับท่าทีของเขา หลังความพยายามลอบสังหารครั้งแรกที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค.ใน Butler, Pennsylvania ซึ่งถ้อยแถลงของปูตินเกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่า ผู้นำรัสเซียไม่มีแผนจะร่วมแสดงความยินดี สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี รายงานว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ร่วมยินดีกับทรัมป์ โดยได้ขอให้ทั้ง 2 ประเทศเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและยั่งยืนระหว่างกัน พร้อมทั้งย้ำว่า ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าจีนและสหรัฐอเมริกาจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือ และจะประสบปัญหาเมื่อมีการเผชิญหน้า
เปิด 7 นโยบายที่ #โดนัลด์ทรัมป์ จะลงมือทำทันทีเมื่อเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ . - ส่งผู้อพยพไร้เอกสารกลับประเทศ - ความเคลื่อนไหวด้านเศรษฐกิจ ภาษี และค่าธรรมเนียมศุลกากร - ลดกฎระเบียบด้านสภาพอากาศ - ยุติสงครามยูเครน - ไม่มีการห้ามทำแท้ง - อภัยโทษผู้ก่อจลาจล 6 มกราคม - ปลดอัยการพิเศษ แจ็ก สมิธ
หลังจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างชัดเจนแล้ว ผู้นำทั่วโลกต่างทยอยร่วมแสดงความยินดีต่อทรัมป์ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี รายงานว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ร่วมยินดีกับทรัมป์ พร้อมย้ำว่า ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าจีนและสหรัฐอเมริกาจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือ และจะประสบปัญหาเมื่อมีการเผชิญหน้า
“โดนัล ทรัมป์” ผู้ที่เคยประกาศว่าไม่เชื่อเรื่อง “โลกร้อน” ได้กลับคืนสู่ทำเนียบขาว ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเรื่องนโยบายสีเขียว ผู้เชี่ยวชาญและนักสิ่งแวดล้อม มองว่าชัยชนะของทรัมป์ อาจจะส่งผลเลวร้ายต่อโลก หากว่าไม่สนใจความพยายามในการจำกัดการร้อนขึ้นของอุณหภูมิโลก
ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นทางการ แน่นอนแล้วว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อะไรเป็นปัจจัยให้เขาชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย พบว่าไม่เพียงนโยบายสุดโต่ง ยังพบว่าคู่แข่งอย่าง “คามาลา แฮร์ริส” ได้ทำพลาดเอง โดยแฮร์ริส ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ABC ในรายการ The View เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ต่อคำถามว่า ถ้าทำได้ อยากทำอะไรที่ต่างไปจากการบริหารประเทศของ “โจ ไบเดน” ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเธอตอบว่า “ไม่มี” สวนทางกับคนอเมริกันจำนวนไม่น้อย ที่เบื่อกับสารพัดปัญหาเศรษฐกิจ ผู้อพยพ และสงคราม และอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับอีกหนึ่งวันแห่งประวัติศาสตร์กับการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 47 ล่าสุดผู้นำหลายชาติทยอยแสดงความยินดีกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” หลังผลคะแนนค่อนข้างชี้ชัดแล้วว่าจะได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ขณะที่ “ทรัมป์” ขึ้นกล่าวขอบคุณกลุ่มผู้สนับสนุนที่ช่วยให้สร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ