นายถวิล เปลี่ยนสี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. แถลงข่าวถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเดือน พ.ค.2553 ว่า จากการปฎิบัติงานใน ศอฉ.ทุกคำสั่งเป็นไปตามหลักสากล เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานด้วยความรับผิดชอบ และเห็นควรจะได้รับการยกย่องมากกว่าเป็นผู้ร้ายฆ่าประชาชน พร้อมยืนยันการแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ได้แก้ต่างให้ ศอฉ.แต่เห็นว่า ขณะนี้มีการกล่าวหานอกศาลว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้ร้ายฆ่าประชาชนซึ่งศาลยังไม่ได้ตัดสิน
นายถวิล ยังระบุอีกว่า คำสั่งในการปฎิบัติงานทุกได้มีการหารือของ ศอฉ. ซึ่งหากเรื่องใดที่ไม่ถูกต้องจะมีการคัดค้าน โดยเฉพาะคำสั่งสลายการชุมนุม ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ไม่มีความรุนแรงเพราะเป็นไปตามหลักสากล
ส่วนคำสั่งยุทธการที่สั่งการออกไปจนส่งผลกระทบตอความขัดแย้งในปัจจุบันเห็นว่า ศอฉ.ต้องออกมารับผิดชอบร่วมกับฝ่ายปฎิบัติการ ส่วนคำสั่งยุทธการที่มีการเผยแพร่ทางสื่ออนไลน์ในขณะนี้ถือเป็นเรื่องปกติแต่ไม่ควรออกมาเปิดเผย เพราะเป็นความลับทางราชการ แต่หากจะเปิดเผยขอให้เป็นไปตามกฏหมายและศาลอนุญาตก่อน
ส่วนประเด็นชายชุดดำที่หลายฝ่ายยังกังขานั้น อดีตเลขาธิการ ศอฉ.ระบุว่า ได้พูดหลายครั้งแล้วแต่มีประเด็นอื่น ๆ
มากลบทำให้ประเด็นชายชุดดำกลับมองข้าม โดยเฉพาะนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่ในฐานะคณะกรรมการ. ศอฉ ไม่อาจออกมาพูดได้อย่างเต็มปาก แต่ส่วนตัวเข้าใจและขอให้กำลังใจนายธาริต พร้อมเชื่อว่า นายธาริตไม่ได้เปลี่ยนขั้วตามที่หลายฝ่ายกล่าวหา
นายถวิล ยืนยันว่า ข้อมูลในเรื่องนี้ได้เปลี่ยนไปตามรัฐบาล แต่จะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเกรียติยศและศักดิ์ศรีจะไม่ยอมทำงานเพื่อรักษาตำแหน่ง เพราะหากเป็นเช่นนั้นคงไม่มาทำงานในจุดนี้
