ดีเอสไอตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง

ดีเอสไอเข้มตรวจโกดังข้าวโครงการรับจำนำการตรวจสอบ การทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยังคงดำเนินการต่อเนื่อง

โดยสัปดาห์ที่ผ่านมากรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพข้าวในโกดังกลางขององค์การคลังสินค้าในจังหวัดชัยนาทก่อนจะขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ด้าน อดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้าได้เสนอให้รัฐจัดเก็บข้าวอย่างมิดชิดและ ต้องมีชื่อผู้รับผิดชอบชัดเจนเพื่อลดปัญหาการทุจริตที่จะเกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ร่วมกับตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐหรือ ปปท.ลงพื้นที่ตรวจสอบท่าข้าวปรีดาเจริญผล ในอ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งองค์การคลังสินค้าใช้เป็นโกดังกลางในการเก็บข้าวจากโครงการรับจำนำ

โดยนับว่าเป็นการปฏิบัติงานครั้งที่ 2 ของดีเอสในการตรวจสอบโกดังข้าว เพื่อตรวจสอบคุณภาพข้าวในโกดังทั้งปริมาณและคุณภาพ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่หลังเบาะแสเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพข้าวหรือเซอร์เวย์เยอร์ เรียกรับเงินจากโรงสีซึ่งหากเจ้าหน้าที่ละเลยในการปฎิบัติหน้าที่จะสร้างความเสียหายต่อรัฐ

แม้การตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ แต่หลังจากนี้จะนำตัวอย่างข้าวในโกดังไปตรวจในห้องปฎิบัติการอีกครั้งเพื่อพิสูจน์คุณภาพข้าว และจะทยอยตรวจสอบไปยังโกดังกลางเก็บข้าวอีกหลายแห่ง สำหรับขั้นตอนการนำข้าวจากโรงสีไปเก็บรักษาในโกดังกลางต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด เมื่อรถบรรทุกข้าวมาถึงโกดัง เจ้าหน้าที่เซอร์เวย์เยอร์จะต้องตรวจสอบเอกสารการส่งมอบข้าวสารหรือปลายข้าว ที่ต้องระบุปริมาณข้าว,โรงสีและทะเบียนรถที่มาส่งมอบ

จากนั้นใช้อุปกรณ์สุ่มแทงกระสอบข้าวหรือปลายข้าวเพื่อตรวจสอบคุณภาพในรอบแรกก่อนสุ่มตรวจคุณภาพข้าวอีกครั้งระหว่างลำเลียง โดยขั้นตอนสุดท้ายจะดูความเรียบร้อยของกระสอบข้าว ซึ่งข้าวในโครงการรับจำนำต้องมีสัญลักษณ์แยกจากข้าวทั่วไป คือข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์จะร้อยกระสอบด้วยด้ายสีเหลืองดำ ขณะที่ด้ายสีส้มจะเป็นปลายข้าว

ด้านนายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ระบุว่า แม้กระทรวงพาณิชย์จะเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลโกดังกลาง ทั้งการติดกล้องวงจรปิดหรือการใช้กุญแจ 3 ดอกเปิดโกดังพร้อมกัน แต่ที่ผ่านมามักประสบปัญหากล้องวงจรปิดเสียหรือเจ้าหน้ามีส่วนรู้เห็นในการทุจริต อดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้าจึงเสนอให้ใช้วิธีคลุมกองข้าวที่อยู่ในโครงการรับจำนำแต่ละกองอย่างชัดเจน โดยต้องเย็บกองข้าวปิดให้มิดชิดและติดชื่อผู้รับผิดชอบกำกับไว้แต่ละกองข้าว เพื่อป้องกันการปลอมปนข้าวหรือนำข้าวออกไปขาย ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาการทุจริตได้มากขึ้น