โคราช ประสบภัยแล้ง น้ำในอ่างเหลือต่ำสุดในรอบ 10 ปี
เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา ออกสำรวจความเสียหาย หลังพบว่านาข้าวได้รับผลกระทบ จากภัยแล้งแล้วกว่า 50,000 ไร่ จากพื้นที่ปลูกทั้งหมด 100,000 ไร่ โดยจะเร่งส่งข้อมูลไปยังจังหวัด เพื่อประกาศเป็นพื้นที่พิบัติภัยแล้ง
ขณะที่สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ยังจำเป็นต้องปล่อยน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวนาที่อยู่ในเขตชลประทาน จนกว่าจะมีฝนตก แม้ระดับน้ำในอ่างจะเหลืออยู่เพียง 84 ล้านลูกบาศก์เมตร จากระดับกักเก็บ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 27 ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี
เช่นเดียวกับชาวนาในตำบลเมืองเก่าอำเภอเมืองพิจิตร ที่ต้องช่วยกันติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำที่เหลือก้นคลองชลประทานดงเศรษฐี เพื่อเป็นน้ำต้นทุนในการทำนา เนื่องจากภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้มีน้ำไม่พอทำนา ขณะที่โครงการชลประทาน ต้องหยุดจ่ายน้ำ เพื่อป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ และ ลุ่มแม่น้ำยม
ส่วนภาคใต้เจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาค สาขาเกาะสมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งนำรถบรรทุกน้ำ ออกแจกจ่ายให้กับประชาชน หลังฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือน ทำให้น้ำในพรุกระจูด ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำหลัก ในการผลิตประปาของเกาะ เริ่มแห้งขอด จนทำให้การประปาต้องลดปริมาณการจ่ายน้ำลง จากปกติที่อำเภอเกาะสมุย มีความต้องการใช้น้ำประมาณ 20,000 ลูกบาศลิตรต่อวัน เมื่อแหล่งกักเก็บน้ำดิบ ของการประปาเริ่มแห้งขอด การประปา ได้ลดปริมาณ การจ่ายน้ำ เหลือเพียง 19,000 ลูกบาศลิตรต่อวัน
อย่างไรก็ตามฝนที่ลงมาอย่างหนักตลอด 2-3 ที่ผ่านมาก็ทำให้หลายจังหวัด ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน เช่นในจังหวัดอุตรดิตถ์ และ จังหวัดน่าน ล่าสุดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ประกาศเตือนฉบับที่ 2 ให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น บ้านต้นหาร ตำบลหน้าเขา อำเภอเขาพนม บ้านห้วยโต้ ตำบลทับปริก อำเภอเมือง อำเภอเกาะลันตา ระวัง น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม ขณะที่เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง