นายกฯ เตรียมใช้ ม.44 ลงโทษค้าโรฮิงญาสงขลา-ฮิวแมนไรท์ วอทช์จี้ไทยยกระดับป้องกันค้ามนุษย์

นายกฯ สั่ง ผบ.ทบ.ลงพื้นที่เคลียร์คดีศพโรฮิงญาบนยอดเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ คาดโทษหนักเจ้าหน้ารัฐมีเอี่ยวขบวนการค้ามนุษย์ ด้านฮิวแมนไรท์ วอทช์ เอเชีย แนะรัฐบาลไทยไม่กักโรฮิงญาแถบตะเข็บชายแดน หวั่นตกเป็นเป้ากลุ่มค้ามนุษย์ จี้ควรยกระดับการป้องกันการค้ามนุษย์ให้เข้มงวดมากขึ้น

วันนี้ (3 พ.ค. 2558) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ จ.สงขลาวันพรุ่งนี้ (4 พ.ค. 2558) เพื่อติดตามความคืบหน้าและคลี่คลายคดีชาวโรฮิงญาเสียชีวิตบนยอดเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา รวมทั้งเร่งทุกหน่วยร่วมปฏิบัติหน้าที่เพื่อขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดจากประเทศไทย

พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังมีนโยบายให้ลงโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์อย่างถึงที่สุด ไม่มีการละเว้นให้กับฐานะหรือตำแหน่งใด และยืนยันรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบแรงงาน ที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ตามหลักมนุษยธรรมไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด อย่างไรก็ดี รัฐบาลพร้อมเดินหน้าทุกรูปแบบเพื่อแก้ปัญหานี้ และอาจองใช้อำนาจคำสั่ง คสช. ตามมาตรา 44 ตามความเหมาะสม

“การกระทำที่อุกอาจและท้ากฎหมายในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้าไปข้องเกี่ยว ซึ่งนายกฯ กำชับให้หน่วยทหารจัดกำลังดูแลความปลอดภัยชาวโรฮิงญาที่รอดชีวิต เพราะเป็นพยานปากสำคัญในการสอบสวนขยายผลทั้งขบวนการ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยแจ้งข้อมูลหากพบการกระทำที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ

ขณะที่ นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์ วอทช์ ภูมิภาคเอเชียกล่าวว่า รัฐบาลไทยควรยกระดับมาตรการป้องกันการค้ามนุษย์ให้เข้มงวดมากขึ้น โดยควบคุมการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ให้การสนับสนุนเครือข่ายการค้ามนุษย์

นายอดัมส์ยังเสนอแนะให้รัฐบาลหลีกเลี่ยงให้ชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่ตามศูนย์ผู้อพยพบริเวณแนวชายแดน เพราะมีความเป็นไปได้ที่ชาวโรฮิงญาจะตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์ที่มักปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญาด้วยความรุนแรง