แนะตรวจเข้มเคมีเกษตรนำเข้า หวั่น
กรมวิชาการเกษตรกำลังทยอยประกาศขึ้นทะเบียนเคมีเกษตรใหม่ ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันราย ฉบับแก้ไข ปี 2551 เพื่อบรรเทาปัญหาและผลกระทบจากการใช้เคมีเกษตรแบบผิดวัตถุประสงค์
นายสินชัย สวัสดิชัย นายกสมาคมอารักขาพืชไทย กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าว ทำให้บริษัทที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนเคมีเกษตร ตามกฎหมายใหม่ การลักลอบนำเข้าเคมีเกษตรจากแหล่งที่มาไม่ถูกต้องมากขึ้น ทั้งที่มาจากจีนและประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้สถานการณ์เคมีเกษตรปลอมในไทยมีความรุนแรงมากขึ้น และพบปัญหาได้เกือบทุกจังหวัดส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเคมีเกษตร และเพิ่มความเสี่ยงที่ผู้บริโภคจะได้รับสารพิษตกค้างจากการรับประทานอาหารมากขึ้น
ขณะที่ นาย ดิ อาร์ซี่ ควินน์ ผู้อำนวยการสหพันธ์วิทยาศาสตร์ ด้านพืช จากสภาสมาคมผู้ผลิตเคมีเกษตร นานาชาติ หรือ คอร์ป ไลฟ์ กล่าวว่า แม้กลุ่มสหภาพยุโรป จะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดสูงสุดแห่งหนึ่งในโลก แต่ก็ยังพบสถิติการจับกุมเคมีเกษตร ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5-10 ของปริมาณสินค้าในตลาด และคาดว่าในประเทศที่ไม่มีการควบคุมอย่างเพียงพอ จะมีเคมีเกษตรปลอมร้อยละ 10-30 ซึ่งทั่วโลกจะพบเคมีเกษตรปลอม มูลค่า 135 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ในไทยอาจมีไม่ต่ำกว่า 17 ล้านบาทต่อปี ช่องโหว่ที่ทำให้เกิดปัญหานี้ในบางประเทศมาจากกลุ่มผู้มีอิทธิพล และอาชญากรก่อนส่งต่อไปยังเครือข่าย ซึ่งมักอยู่ในรูปการขายตรง หรือระบบสมาชิก พร้อมแนะนำให้ กรมศุลกากร และกรมวิชาการเกษตร ต้องประสานงานกันมากขึ้น เพื่อตรวจสอบทะเบียนการค้า สังเกตและเรียนรู้แหล่งผลิตที่ถูกต้องจากข้อมูลบนฉลาก ขณะที่ผู้นำเข้าควรเพิ่มความรอบคอบ และปฏิเสธขายจากกลุ่มนี้ ซึ่งมักจูงใจด้วยราคาต่ำกว่าตลาดเกินครึ่งหนึ่ง