ป.ป.ช.มีมติเรียกพยาน 4 คน ให้ปากคำเพิ่ม กรณีการไซฟ่อนเงิน 16,000 ล้านบาท
นอกจากการเข้าให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อตรวจสอบ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์ปชั่นของชาติ หรือ ภตช. แล้ว นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังนำหลักฐานที่ พ.ต.อ.ดุษฎี สมัครเข้าเป็นสมาชิก ภตช. ทั้งที่ยังดำรงตำแหน่งเลขาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปท. และภาพถ่ายขณะที่ไปบรรยายที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ยื่นให้ดีเอสไอตรวจสอบด้วย
ขณะที่พ.ต.อ.ดุษฎี ปฏิเสธตอบโต้ประเด็นต่าง ๆ กับรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย เพียงแต่ระบุไม่เคยไปบรรยายที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และแม้จะเป็นสมาชิก ภตช.แต่ก็ยังไม่ได้มีการทำกิจกรรมร่วมกัน
ซึ่งประเด็นการไซฟ่อนเงินไปยังฮ่องกง และ ฝรั่งเศส พ.ต.อ.ดุษฎี ยังย้ำในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้(25ต.ค.55)ว่า ไม่เคยได้รับข้อมูล ให้ข่าว หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว โดยมีเพียง 3 เรื่องที่มีข้อมูลอยู่ คือ กรณีการเลี่ยงภาษีนำเข้ารถหรู, บุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ และทุจริตงบประมาณภัยพิบัติน้ำท่วม ที่กำลังเตรียมนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการ ป.ป.ท.เร็วๆนี้
ก่อนหน้านี้เลขาธิการ ภตช.ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบกรณีนักการเมืองทุจริตนำเงินช่วยเหลืออุทกภัยออกนอกประเทศ และอ้างพยานบุคคล 4 คน ซึ่งการประชุม ป.ป.ช. เมื่อวานนี้ มีมติเรียกพยานบุคคลมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม โดยไม่เปิดเผยชื่อและรายละเอียด โดยหากพยานเป็นชาวต่างชาติ ก็จะอาศัยอำนาจผ่านช่องทางอัยการสูงสุดเป็นผู้ดำเนินการ พร้อมกันนี้จะเรียกเอกสารจาก คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ประกอบการพิจารณาด้วย
นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ปปช. แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2554 เรียกให้ ป.ป.ท. โอนเรื่องการนำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษีและเอกสารมาให้สำนักงาน ป.ป.ช.ตรวจสอบ รวมถึงมีมติให้ สำนักงาน ป.ป.ช.รวบรวมข้อมูลการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว จากสื่อทุกแขนง มาประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียนที่ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ มายื่นคำร้องตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวว่าชอบธรรมหรือไม่