ผู้นำจีนเน้นการบริโภคในประเทศมากขึ้น
นายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีของจีน ได้กล่าวในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 18 ที่มหาศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่งว่า จีนจะต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยรับประกันว่าการพัฒนาจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างเท่าเทียม และมีศักยภาพ ซึ่งจีนจะต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคของประชาชน พร้อมตั้งเป้าว่าภายในปี 2563 จีนจะเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี และรายได้ต่อหัวของประชากรให้สูงขึ้นเท่าตัว
ในช่วงปี 2553 เศรษฐกิจของจีนเติบโตอย่างร้อนแรง โดยมีสาเหตุมาจากค่าจ้างแรงงานถูก การส่งออก และการลงทุนในจีนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลดความร้อนแรงลง เป็นผลกระทบมาจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ทำให้ความต้องการบริโภคลดลง การจ้างผลิต และการส่งออกของจีน จึงลดลงตามไปด้วย ประกอบกับค่าแรงในจีนเพิ่มสูงขึ้น
การประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งนี้นอกจากจะเป็นการแถลงแนวนโยบายของคณะผู้บริหารจีนแล้ว จะมีการลงมติเลือกคณะผู้บริหารพรรคชุดใหม่ ขึ้นมาแทนที่ชุดเดิม ซึ่งกำลังจะหมดวาระในปีหน้า คาดว่านายสี จิ้นผิง รองประธานาธิบดี จะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ แทนนายหู จิ่นเทา จากนั้นสภาประชาชนแห่งชาติจีนจะเลือกเขาเป็นประธานาธิบดีแทนนายหูในเดือนมีนาคมปีหน้า
ส่วนนายหลี่ เค่อเฉียง ซึ่งเป็นสมาชิก 1 ใน 9 ของคณะกรรมการประจำกรมการเมือง และเป็นรองนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันก็จะได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปแทนนายเหวิน เจียเป่า