ออกหมายจับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ จ.สงขลา เพิ่ม 11 คน

เจ้าหน้าที่เร่งขยายผลสอบสวนผู้ต้องหาที่ให้ที่พักพิงผู้หลบหนีเข้าเมืองในตำ ต.บ้านนา อ.เมืองชุมพร หลังพบเพิงพักชั่วคราว 2 จุด ขณะที่ตำรวจภูธรภาค 9 ออกหมายจับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ใน จ.สงขลา อีก 11 คน ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายจับรวมทั้งสิ้น 29 คน

ภายหลังศาลจังหวัดนาทวี อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ใน จ.สงขลา เพิ่มอีก 11 คน ทำให้ขณะนี้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 29 คน พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่าทั้งหมดเป็นเครือข่ายค้ามนุษย์หรือไม่ พร้อมประสานตำรวจมาเลเซียเพื่อแก้ปัญหาเครือข่ายค้ามนุษย์ โดยเฉพาเรื่องเขตแดนที่ต้องเข้าไปพิสูจน์ทราบบนเทือกเขา ซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกัน

ทั้งนี้ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีการพิสูจน์ทราบที่พักชั่วคราวของชาวโรฮิงญารวม 4 แห่ง มีอาคารที่พักชั่วคราว 51 หลัง มีชาวโรฮิงญาได้รับการช่วยเหลือ 55 คนและพบศพแล้ว 33 คน

ส่วนที่ จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลติดตามขบวนการค้ามนุษย์ หลังเข้าตรวจสอบเพิงพักบนยอดเขากลางหมู่บ้าน ต.บ้านนา อ.เมืองชุมพร 2 จุด เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.2558) ซึ่งพบเศษกระดาษห่อข้าว, เสื้อผ้า เอกสารสำเนาระบุชื่อชาวเมียนมา 20 รายชื่อและโทรศัพท์มือถือที่ใช้ภาษาเมียนมา

นายเจริญชัย ยอดจันทร์ ชาว ต.บ้านนา ยอมรับว่า เคยลักลอบขนแรงงานข้ามชาติ แต่ปัจจุบันทำหน้าที่เพียงเรียกเก็บเงินค่าผ่านทางจากขบวนการค้ามนุษย์เป็นรายคัน คันละ 2,000 บาทและล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 พ.ค.2558) เพิ่งรับเงินจำนวน 4,000 บาท จากขบวนการค้ามนุษย์ที่ใช้รถยนต์กระบะตอนครึ่งจำนวน 2 คัน คันละ 20 คน สำหรับขนแรงงานข้ามชาติออกไปจากจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ

ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมหาแนวทางแก้ปัญหาและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกับตำรวจระดับผู้บังคับการทั่วประเทศ หลังรัฐบาลประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากพบศพชาวโรฮิงญาบริเวณเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังย้ำว่า การค้ามนุษย์เป็นปัญหาร้ายแรงระดับประเทศ หลังจากสหรัฐอเมริกาจัดอันดับให้ไทยเป็นประเทศที่มีการค้ามนุษย์ระดับต้น จึงวางแผนปิดเส้นทางเข้าพื้นที่สกัดกั้นการลักลอบนำชาวโรฮิงญาผ่านไทยไปประเทศเป้าหมาย พร้อมอยู่ระหว่างการเสนอเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิด ส่วนกรณีมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเรียกรับผลประโยชน์จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ยังเตรียมหารือนายกรัฐมนตรี เสนอขออนุมัติใช้มาตรา 56 ให้สามารถออกคำสั่งโยกย้ายตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทราบเรื่องในทันที เพื่อต้องการให้เป็นบรรทัดฐานต่อการทำงานและให้ต่างประเทศยอมรับการทำงานของตำรวจไทย