เปิดพื้นที่เก่าย่านพระนครจัดงานฉลองรัตนโกสินทร์ 230 ปี 
งดงามตามแบบฉบับหญิงไทยโบราณ ด้วยท่วงท่าเรียบร้อย สวมผ้านุ่งมีจีบหน้านางยาวกรอมเท้า ต่างกันเพียงการห่มสไบกรองทับสไบอัดกลีบ เครื่องบอกสถานะของสตรีชั้นสูงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่แตกต่างจากสตรีในราชสำนักที่ห่มสไบอัดกลีบเพียงอย่างเดียว จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนกลาง ที่อิทธิพลจากตะวันตกทำให้รูปแบบการแต่งกายที่นิยมห่มสไบนุ่งโจงกระเบน เปลี่ยนมาเป็นการสวมเสื้อแบบฝรั่ง ตกแต่งด้วยลูกไม้ ขณะที่ท่อนล่างนุ่งกระโปรงยาวครึ่งแข้ง และสวมเครื่องประดับตกแต่ง เช่น หมวก และสร้อยไข่มุก วิวัฒนาการของชุดไทยของสตรีสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ นำมาให้ชมอีกครั้งในงานรำลึกรัตนโกสินทร์ 230 ปี ย้อนรำลึกวิถีชีวิตผู้คนผ่านประวัติศาสตร์ชุดแต่งกาย
วรนุช ภิรมย์ภักดี นักแสดง กล่าวว่า คิดว่าชุดแต่งกายของคนสมัยรัตนโกสินทร์สะท้อนวิถีชีวิต วัฒนธรรม ของคนรุ่นนั้นได้ยังไงบ้าง
กว่า 20 ปีที่ยึดอาชีพการแทงหยวกกล้วย ประดับฐานโลงศพ ภูมิปัญญาที่สืบทอดจากรุ่นปู่สู่รุ่นพ่อ หากปัจจุบันเหลือเพียง วีระ แดงแนวโต คนสุดท้ายในครอบครัว และชุมชนวัดใหม่อมตรสที่รู้วิธีการแกะสลักหยวกกล้วย ส่วนหนึ่งของงานฝีมือในชุมชนบางลำพูที่คนภายนอกอาจยังไม่รู้จักนำมาจัดแสดงในงานนี้ ยังมีกิจกรรมของกลุ่มเยาวชนย่านบางลำพู ทั้งงานศิลปะ งานฝีมือที่ให้ผู้ร่วมงานร่วมเย็บป้ายผ้าเป็นที่ระลึก หวังให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก และเห็นคุณค่าของสถาปัตยกรรม และศิลปวัฒนธรรมของย่านชุมชนที่อยู่คู่กรุงรัตนโกสินทร์มายาวนาน
วรีพร กิตติกิ่งเลิศ - ธนสิษฐ์ แก้วโกมุท ผู้ร่วมงาน กล่าวว่า ให้เยาวชนได้มาเรียนรู้ย่านเก่า ดีกว่าไปอยู่กับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเดียว เด็กสนุกดี ได้มาเรียนรู้ชื่อสถานที่ ความเป็นมา
วีระ แดงแนวโต ช่างเเกะสลักหยวกกล้วย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมแบบนี้ก็ให้คนรู้จักของดีของเก่าแก่ในย่านนี้
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงสถาปนาราชธานีใหม่กรุงรัตนโกสินทร์ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในปี 2325 จนถึงวันนี้ 230 ปี จัดกิจกรรมรำลึก ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ จนถึงต้นเดือนมกราคมปีหน้า ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่มหาวิทยาลัยศิลปากร และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปจนถึงถนนพระสุเมรุ และถนนอาทิตย์