ปตท.ชี้ไทยเสี่ยงขาดแคลนพลังงาน หากหมดสัญญานำเข้าก๊าซธรรมชาติจากพม่า

ปตท. เผยประเทศไทยอาจประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน หากหมดสัญญานำเข้าก๊าซธรรมชาติจากพม่า ทำให้ต้องเพิ่มการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากประเทศอื่นที่มีราคาสูงกว่า

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมพลังงานจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของประเทศไทยว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ภายหลังจากที่พม่าเปิดประเทศ ทำให้ความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศพม่าสูงขึ้น หากก๊าซธรรมชาติที่ไทยนำเข้าจากพม่า ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 8 ของปริมาณก๊าซธรรมชาติทั้งหมดได้หมดสัญญาลง ไทยจะประสบปัญหาขาดขาดแคลน และต้องเพิ่มการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากประเทศอื่นที่มีราคาสูงกว่า

"ได้เคยหารือกับพล.อ.เต็งเส่ง กรณีการส่งก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศไทย ซึ่งได้ย้ำว่าจะไม่เพิ่มปริมาณการส่งออกก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศไทย เนื่องจากมีความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศสูงขึ้น แต่ยังคงส่งในปริมาณเท่าเดิมจนกว่าจะครบสัญญา" ณัฐชาติ ระบุ

ส่วนกรณีการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีนั้น มีแนวโน้มเรื่องการปรับราคามานานแล้ว และได้พูดคุยกับผู้ประกอบการหลายแห่ง แต่เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยครั้ง จึงไม่มีการปรับ และคงราคาอยู่ที่ 10.50 บาท. โดยปัจจุบัน มีปริมาณรถยนต์ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี จำนวน 367,816 คัน สถานีเอ็นจีวี 481 แห่ง

ขณะที่นายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานชมรมรถร่วม ขสมก. กล่าวว่า ผู้ประกอบการรถร่วม บขส., รถร่วม ขสมก. ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ และรถบรรทุกบางส่วน คัดค้านและต้องการให้รัฐบาลชี้แจงต้นทุนที่แท้จริงของก๊าซ NGV เนื่องจากเป็นทรัพย์สมบัติของประเทศ และก่อนหน้านี้ก็ได้ขึ้นราคาค่าขนส่งก๊าซในพื้นที่ห่างไกลแล้ว