กบอ.เตือนเอกชนประมูลโครงการจัดการน้ำ หากติดสินบนถูกตัดสิทธิ์ทันที
คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยหรือ กบอ. เปิดให้เอกชนเข้ารับเอกสารหลักเกณฑ์การประมูล หรือ ทีโออาร์ และปรับลดวงเงินโครงการจัดการน้ำลงเหลือ 2.9 แสนล้านบาท หลังปรับลดขนาดโครงการลง พร้อมเตือนเอกชนหากวิ่งเต้นจ่ายสินบนจะถูกตัดสิทธิ์และขึ้นบัญชีดำทันที
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักเกณฑ์การประมูล หรือ ทีโออาร์ โครงการจัดการน้ำ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท พร้อมเห็นชอบปรับลดวงเงินเหลือ 3.1 แสนล้านบาท ตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. เสนอ และโยกเงินส่วนที่เหลือให้กับคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟู และสร้างอนาคตประเทศ หรือ กยอ. จำนวน 40,000 ล้านบาท หลังจาก กบอ. สรุปปรับปรุงบางโครงการ เช่น การรวมโครงการจัดทำคลังข้อมูล พยากรณ์ และระบบเตือนภัย 2 ลุ่มน้ำเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงปรับลดขนาดอ่างเก็บน้ำบางส่วน และเลือกวิธีผันน้ำ หรือ ฟลัด ไดเวอร์ชั่น 2 เส้นทาง แทนการจัดทำทางน้ำหลาก หรือ ฟลัดเวย์ โดยแต่ละโครงการ มีคะแนนเต็ม 80 คะแนน
จากนั้นนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างโครงการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เรียกตัวแทนบริษัทเอกชน ทั้ง 6 กลุ่มบริษัท เข้ารับทีโออาร์ ขนาดโครงการละ 10-20 หน้า จากทั้งหมด 9 กลุ่มโครงการ เพื่อนำกลับไปอ่าน 1 วัน และซักถามอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้ (20มี.ค.56)
ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือก กำชับตัวแทนเอกชนห้ามเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนในกลุ่ม และเตือนให้ระมัดระวังการเข้าพบผู้เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการคัดเลือก เพื่อป้องกันข้อครหาวิ่งเต้นจ่ายเงินสินบน เพราะอาจถูกตัดสิทธิ์ออกจากการประมูลทันที
ทั้งนี้ ทีโออาร์ กำหนดกรอบดำเนินงาน และเงื่อนไข รวม 18 ข้อ เช่น กำหนดราคาที่ระบุในโครงการ ถือเป็นราคาสูงสุด ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด, การสละลิขสิทธิ์โดยไม่มีเงื่อนไข, ถ่ายทอดเทคโนโลยี พร้อมกำหนดค่าปรับ ค่าประกัน
โดยเอกชนมีเวลาจัดทำเอกสารและซองประกวดเทคนิค ราคา ใน 45 วัน และส่งเอกสารทั้งหมดในวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 เพื่อให้คณะกรรมการคัดเลือก เสนอรายชื่อผู้ชนะประมูลให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ และประกาศผลอย่างเป็นทางการ กลางเดือนเมษายนนี้
