คอนเสิร์ตการกลับมาของนิชคุณ และ 2PM

จบไปแล้วกับทัวร์คอนเสิร์ตเอเชียรอบนี้ของ 2PM เลือกปิดการแสดงส่งท้ายที่ประเทศไทย ซึ่งมีฐานแฟนเพลงเหนียวแน่น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความนิยม 1 ในหนุ่มสมาชิกวง นิชคุณ หรเวชกุล ต้นแบบศิลปินไทยที่แจ้งเกิดวงการเคป็อบ

เพลง I'll Be Back เป็นเหมือนคำสัญญาต่อแฟนเพลงที่จะกลับมาพบกันอีกครั้ง และใช้เป็นเพลงเปิดการแสดงของ 2PM ในการแสดงปิดทัวร์คอนเสิร์ต What Time Is It ที่เปิดการแสดงในหลายประเทศของเอเชีย และเลือกที่จะปิดทัวร์ครั้งนี้ที่เมืองไทย ถือเป็นการกลับมาแสดงแบบเต็มวงอีกครั้งหลัง นิชคุณ หรเวชกุล 1 ในสมาชิกต้องหยุดกิจกรรมช่วงปลายปีก่อนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์

2PM แจ้งเกิดด้วยการเปลี่ยนภาพจำบอยแบนด์ผู้บอบบาง สู่ภาพลักษณ์ใหม่วงชายล้วนด้วยท่าเต้นที่แข็งแรง จนมีแฟนเพลงติดตามทั่วเอเชีย โดยปี 2012 ยอดขายของ 2PM และงานเดี่ยวของสมาชิกทำรายได้เกือบครึ่งของค่าย JYP ที่มีศิลปินในสังกัดคือ Rain และ Wonder Girls

ปัจจัยที่ทำให้ 2PM มีฐานแฟนเพลงในไทยอย่างเหนียวแน่น ส่วนหนึ่งมาจากความสำเร็จของ นิชคุณ ซึ่งแจ้งเกิดในฐานะศิลปินไทยที่ร่วมงานกับวงการเคป็อป นอกจากการฝึกซ้อมเพื่อให้การร้อง และเต้นเข้าขั้นมาตรฐานแล้ว อัธยาศัยที่ดูเป็นมิตร ทำให้เป็นที่ยอมรับในเกาหลีใต้ โดยผลสำรวจล่าสุดของไอดอลด้วยกันยกให้นิชคุณเป็นอันดับ 2 ของไอดอลฝ่ายชายที่มีภาพลักษณ์โดดเด่นที่สุด

Let It Rain เพลงร้องคลอเปียโนบรรยายถึงความผูกพันต่อบุคคลอันเป็นที่รัก คือบทเพลงแทนใจที่ นิชคุณ แต่งขึ้นระหว่างช่วงพักงานจากคดีเมาแล้วขับ เพื่อแทนคำขอบคุณแฟนเพลง ที่ให้การสนับสนุนเขาอยู่เสมอ ซึ่งแรงใจที่ได้รับในวันนี้ ช่วยให้พวกเขาเติบโตบนเส้นทางดนตรีต่อไป