ในการประชุมแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทนัดพิเศษระหว่างนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน
ด้านประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าใกล้เคียงภาวะปกติ จะช่วยให้เอกชนมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น และหากสถานการณ์ค่าเงินบาทไม่ผันผวน การส่งออกในไตรมาสที่ 2 ก็จะดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ 1 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.3 แต่ต้องจับตาสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจโลกควบคู่ไปด้วย
นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า พอใจที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งหากประสานการทำงานร่วมกันมากขึ้น ก็จะทำค่าเงินบาทกลับมาใกล้เคียงกับสกุลเงินในภูมิภาคได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยยืนยันไม่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่า เพราะต้องดูแลเศรษฐกิจในภาพรวมและเกรงจะกระทบอัตราเงินเฟ้อ ทำให้เกิดความเห็นที่ไม่ตรงกันกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่าควรลดอัตราดอกเบี้ยลง ทำให้มีการเรียกประชุมร่วมกันหลายครั้ง เพื่อทำความเข้าใจในงานการทำงาน แต่ไม่เคยได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าการกระประชุมครั้งนี้ จะได้แนวทางการแก้ปัญหาร่วมกันจากทุกฝ่าย